Skip to main content
Soul Food Podcasts

Soul Food Podcasts

By Soul Food Ministries

Podcasts สำหรับ Christian และผู้สนใจ ที่รวบรวม รายการหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
1 เฝ้าเดี่ยวประจำวัน :-
พระธรรมนำชีวิต กับวุฒิ วงศ์สรรเสริญ สด.. แต่เช้า กับ อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ที่อัพเดท ทุกวัน 5:00 น.

2 รายการ Be Still.. รายการที่ อ.ไลฟ์ วาระมีชูธนาจะชวนคุณมาอธิฐานกับพระเจ้าก่อนที่คุณจะเข้านอน

3 รายการชวิตคริสเตียน :- อาจารย์ครับ…ครือว่า.. กับ บอย โกสิยพงษ์ ที่จะคอยโทรศัพท์ถามอาจารย์ต่างๆ ในคำถามที่ เกี่ยวกับชีวิตคริสเตียน, ข้อพระคำภีร์ที่เข้าใจยาก, ความสำพันธ์กับพระเจ้า และคำถามที่ไม่กล้าถามคนอื่น
อัพเดททุกวันจันทร์ 7:00 น.



เราเชื่อว่าพระเจ้ากำลังนำรายการ podcasts อีกมากมายตามมาในระยะอันใกล้นี้ โปรดกดติดตาม กดกระดิ่งเตือนเมื่อมีตอนใหม่ และช่วยแชร์ให้กับคนที่คุณรักด้วยนะครับ
Available on
Google Podcasts Logo
Pocket Casts Logo
RadioPublic Logo
Spotify Logo
Currently playing episode

ยืนยันในความหวัง

Soul Food PodcastsMay 22, 2021

00:00
04:04
Ep.26 พระคัมภีร์สำคัญอย่างไรหรือ?

Ep.26 พระคัมภีร์สำคัญอย่างไรหรือ?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(26)

พระคัมภีร์สำคัญอย่างไรหรือ?

”พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า
และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิด
และการอบรมในความชอบธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะมีความสามารถ
และพรักพร้อมเพื่อการดีทุกอย่าง“
~‭‭2 ทิโมธี‬ ‭3‬:‭16‬-‭17‬ ‭THSV11‬‬
”All Scripture is God-breathed and is useful for teaching, rebuking,
correcting and training in righteousness, so that the servant of God
may be thoroughly equipped for every good work.“
‭‭ ~2 Timothy‬ ‭3‬:‭16‬-‭17‬ ‭NIV‬‬

“พระคัมภีร์ สำคัญ อย่างไรหรือ
เป็นหนังสือ เต็มเปี่ยม สิทธิ์อำนาจ
ยืนหยัดมา ตลอด ประวัติศาสตร์
ยังสามารถ ดำรง คงเอกภาพ

พระคัมภีร์ ไม่ใช่ ตำราวิทย์ฯ
ไม่ควรคิด แบบเป็น คณิตศาสตร์
เป็นหนังสือ อัศจรรย์ แสนประหลาด
เราไม่อาจ มองข้าม ความสำคัญ

พระคัมภีร์ เกิดจาก การดลใจ
แต่ไม่ใช่ มาจาก จินต์นาการ
แต่เต็มเปี่ยม หลากหลาย ด้วยหลักฐาน
อยู่ยืนนาน รอดพ้น ทุกโจมตี

พระคัมภีร์ มีตัววัด มาตรฐาน
ทุกเหตุการณ์ ไม่ห่าง เวลาเขียน
เหล่าสำเนา มากสุด นับจนเอียน
สิ่งที่เขียน มากมาย ยากมองข้าม

พระคัมภีร์ สอบผ่าน แรงจูงใจ
ที่ไหนไหน ล้วนนำ มาอ้างอิง
มีหลักฐาน สอดคล้อง แทบทุกสิ่ง
เป็นความจริง ยอมรับ โดยทั่วไป

พระคัมภีร์ ถูกกล่าวหา ว่าบิดเบือน
ถูกแชเชือน ว่าผิดพลาด ต้นฉบับ
ว่าขัดแย้ง กันเอง ไม่ควรรับ
แต่ว่ากลับ ตรงกัน ในบั้นปลาย

พระคัมภีร์ แตกต่าง มุมมองเห็น
แต่ใช่เป็น พลาดผิด ขัดแย้งไม่
หากใจกว้าง ก้าวข้าม จะมั่นใจ
ไม่สงสัย ความจริง อันแน่นอน

พระคัมภีร์ มีเรื่อง ถูกโจมตี
สิ่งไม่ดี หลายสิ่ง รับไม่ได้
องค์พระเจ้า ปล่อยไป ไว้ทำไม
หากเข้าใจ พระประสงค์ จะโอเค

พระคัมภีร์ ชี้ถึง ความตกต่ำ
มนุษย์ทำ บาปกรรม ใจใหลหลง
ร่วมกันโยน ความผิด ใส่พระองค์
ถ่อมใจลง กลับใจ จะดีกว่า

พระคัมภีร์ มีเหตุผล ทุกเรื่องราว
ในบางคราว ภาษา ยากเข้าใจ
เราจำกัด เรียนรู้ใหม่ จะดีไหม?
จงเดินไป เชื่อวางใจ ในพระธรรม

พระคัมภีร์ มีประโยชน์ เมื่อเราอ่าน
อย่าให้ผ่าน แต่ละวัน ใจเพิกเฉย
ให้คัมภีร์ อ่านเรา ยิ่งดีเลย
จะเปิดเผย ให้เรา รู้จักตน

พระคัมภีร์ ช่วยเรา ให้ห่างบาป
หรือไม่บาป ชวนเรา ห่างคัมภีร์
ก่อนจะทำ ตั้งสติ คิดให้ดี
จะเป็นผี เป็นคน อยู่ที่เรา

พระคัมภีร์ มีไว้ ใช้เปลี่ยนเรา
ใช่ให้เรา เหิมเกริม ทำตรงข้าม
พระคัมภีร์ ให้มา จงทำตาม
แล้วสิ่งงาม จะท่วมท้น ชีวิตเรา!”

พี่น้องที่รัก
1.ขอให้เราเชื่อและมั่นใจว่า พระคัมภีร์เป็นหนังสือที่พระเจ้าเขียนผ่านมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา
2.ขอให้เราดำเนินชีวิตตามคำสั่งสอนของพระเจ้าในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ด้วยความเชื่อฟัง

พระคัมภีร์ให้เหตุผลที่ดีว่า ทำไมเราควรประพฤติ หรือ ปฏิบัติตามคำสอนของพระคัมภีร์
เพราะพระคัมภีร์ทุกตอนน่าเชื่อถือ และมีพลังในการเปลี่ยนแปลงชีวิต คือ

1.ได้รับการดลใจจากพระเจ้า
2.เป็นประโยชน์ใน
1).การสอน
2) การตักเตือนว่ากล่าว
3).การแก้ไขสิ่งผิด และ
4).การอบรมในความชอบธรรม
เพื่อคนของพระเจ้าจะ
ก.มีความสามารถ และ
ข.พรักพร้อมเพื่อการดีทุกอย่าง!

…อาเมนไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
26เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี





Apr 25, 202409:51
Ep.939 มีสิทธิ์รับมรดก

Ep.939 มีสิทธิ์รับมรดก

พระธรรมนำชีวิต
ตอน มีสิทธิ์รับมรดก Ep.939

เมื่อวานผมไปฉีดยาที่ตาที่ ร.พ. จุฬามาครับ ตอนนี้ยังปวดหนึบๆที่ตาอยู่ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วยนะครับ
พระเจ้าของเรานั้นทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม วิธีการของพระเจ้านั้นเรียบง่าย แต่ก็อาจจะไม่ถูกใจเรา แต่เราก็ไม่สามารถที่จะโต้แย้งได้ เรามั่นใจเถอะว่า สิ่งที่พระเจ้าจัดให้เรานั้น ดีที่สุดแน่นอน

”เจ้าทั้งหลายจงแบ่งมรดกที่ดินนั้นด้วยฉลากตามตระกูลของเจ้า เผ่าใหญ่เจ้าจงให้มรดกก้อนใหญ่ เผ่าเล็กเจ้าจงให้มรดกก้อนเล็ก ที่ดินผืนไหนที่ฉลากตกกับใคร ก็ให้เป็นของคนนั้น เจ้าจงรับมรดกตามเผ่าของบรรพบุรุษของพวกเจ้า“
กันดารวิถี‬ ‭33‬:‭54‬

การแบ่งมรดกนั้น คนที่มีส่วนในมรดกได้ในภาษากฎหมายใช้คำว่า ทายาทโดยธรรม อธิบายคำนี้เพิ่มเติม ทายาทโดยธรรมคือผู้ที่มีสายสัมพันธ์ทางสายโลหิต การแบ่งมรดกนั้นเจ้าของทรัพย์สินจะเป็นคนระบุไว้ว่าให้ใครเท่าไรยังไงบ้าง ซึ่งแน่นอน คนที่ได้น้อยกว่า หรือคนที่ได้ในส่วนที่ไม่อยากจะได้ก็จะไม่พอใจ พระเจ้าทรงทำให้คนอิสราเอลเห็นว่าพระองค์ยุติธรรมและเที่ยงธรรมเสมอ เผ่าใหญ่เจ้าจงให้มรดกก้อนใหญ่ เผ่าเล็กเจ้าจงให้มรดกก้อนเล็ก พระเจ้าให้วิธีการกับคนอิสราเอลที่สุดยอดจริงๆคือการจับฉลาก สิ่งที่พวกเขาได้รับนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาเองหยิบขึ้นมาเอง จึงไม่สามารถโต้แย้งได้ว่า ฉันไม่เอา ไม่อยากได้ ทุกการเลือกจะมีผลตามมาเสมอ วันนี้พวกเราเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกที่พระเจ้าประทานให้ เพราะเราเลือกที่จะเชื่อวางใจว่า พระเยซูเป็นพระเจ้าที่ลงมช่วยให้เรารอด

”พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับจิตวิญญาณของเราว่า เราเป็นลูกของพระเจ้า และถ้าเราเป็นลูกแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เมื่อเราทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับพระองค์ก็เพื่อจะได้ศักดิ์ศรีด้วยกันกับพระองค์ด้วย“ โรม‬ ‭8‬:‭16‬-‭17‬ ‭

ให้เรามั่นใจว่าเราเป็นทายาทโดยธรรม เป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์ทางสายโลหิตของพระเยซู เราจึงมีส่วนในมรดกของพระเจ้า

”สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา โดยพระเมตตาล้นเหลือของพระองค์ ทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ เข้าในความหวังที่ยั่งยืน โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ และเข้าในมรดก ซึ่งไม่เสื่อมสลายและไร้มลทิน และไม่ร่วงโรย ซึ่งได้เก็บรักษาไว้ในสวรรค์แล้วเพื่อพวกท่าน“
‭‭1 เปโตร‬ ‭1‬:‭3‬-‭4‬ ‭

เราบังเกิดใหม่เป็นลูกของพระเจ้าแล้ว มีส่วนในมรดกของพระเจ้าแล้ว คือความหวังที่ยั่งยืน ไม่เสื่อมสลายไป ถูกเก็บรักษาไว้ในสวรรค์แล้ว ในยามที่เผชิญความทุกข์ใจ หรืออะไรก็ตาม อย่าได้ให้สิ่งนั่นพรากความสุข พรากความหวังที่มีในพระเยซูไปจากเรา

”และหลังจากพวกท่านทนทุกข์ชั่วเวลาหนึ่งแล้ว พระเจ้าแห่งพระคุณทั้งสิ้น ผู้ได้ทรงเรียกให้พวกท่านเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ของพระองค์ในพระ[เยซู]คริสต์ พระองค์เองก็จะทรงฟื้นฟู จะทรงค้ำจุนให้มั่นคง จะทรงเสริมเรี่ยวแรง และจะทรงให้พวกท่านตั้งมั่นอยู่“ ‭‭1 เปโตร‬ ‭5‬:‭10‬ ‭

ขอให้เราอดทนด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความขมขื่น หรือความอดทนนั้นพาเราไปสู่ความท้อใจ ท้อถอยจนละทิ้งความเชื่อในพระเยซูไป พระวจนะของพระเจ้าบอกว่า หลังจากที่พวกเราทนทุกข์ชั่วเวลาหนึ่งแล้ว พระเจ้าผู้ประทานสิทธิในการเป็นทายาทซึ่งทำให้เราสามารถรับมรดกเป็นศักดิ์ศรีถาวรนิรันดร์ พระองค์เองก็จะทรงฟื้นฟู จะทรงค้ำจุนเราให้มั่นคง จะทรงเสริมเรี่ยวแรง และจะทรงให้พวกเราตั้งมั่นอยู่ คำว่าฟื้นฟูนี้ แปลเป็นภาษาให้เราเข้าใจง่ายๆ คือ พระเจ้าเองจะนำเราให้คืนสู่สภาพดีดังเดิม เราจะผ่านทุกสถานการณ์ไปได้โดยความอุปถัมภ์ โดยกำลังที่มาจากพระเจ้า ขอให้พวกเราจะตั้งมั่นอยู่ในความหวังนี้ เพื่อรักษาสิทธิ์ทายาทอันชอบธรรมนี้ไว้ ความชื่นชมยินดีในพระเยซูนี้มีอยู่ตั้งแต่วันที่เรายืนยันว่าเราเชื่อในพระเยซู ไม่ได้แค่มีในอนาคตนิรันดร์ที่บ้านของพระเจ้าเท่านั้น อย่าให้อะไรมาพรากความสุข ความหวังที่เรามีในพระเจ้าไปได้ สู้ๆนะครับ
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 25, 202410:10
Ep.938 เลือกเอาเอง

Ep.938 เลือกเอาเอง

พระธรรมนำชีวิต
ตอน เลือกเอาเองครับ Ep.938

ในพระธรรมกันดารวิถีบทที่ 33 เราจะเห็นถึงลักษณะของคนที่พระเจ้าเลือก คือความละเอียดรอบคอบของโมเสสอย่างมาก ท่านบันทึกการเดินทางตั้งแต่วันแรกว่าพระเจ้านำพวกเขาไปทางไหนบ้าง พระเจ้าทรงนำให้พวกเขาอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปี วันนี้พระเจ้ายังคงย้ำเตือนพระสัญญาของพระองค์กับประชากรของพระองค์ และบอกข้อตกลงไว้อย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไร ถ้าไม่ทำจะเจอกับอะไร

”และพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสส ณ ที่ราบโมอับริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเมืองเยรีโคว่า “จงกล่าวกับคนอิสราเอลว่า เมื่อพวกเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินคานาอัน จงขับไล่ชาวเมืองนั้นออกไปให้หมดต่อหน้าพวกเจ้า และทำลายรูปเคารพแบบแกะสลักของเขาให้หมด ทำลายรูปปั้นแบบหล่อของเขาให้หมด และทำลายบรรดาปูชนียสถานสูงของเขาทุกแห่ง และเจ้าทั้งหลายจงยึดครองแผ่นดิน แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้น เพราะเราได้ให้แผ่นดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเจ้า“ กันดารวิถี‬ ‭33‬:‭50‬-‭53‬

พระเจ้าทรงยืนยันพระสัญญาของพระองค์ว่า ดินแดนนี้คือดินแดนที่พระเจ้ามอบให้เป็นที่อาศัยของคนอิสราเอล สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ ขับไล่คนพื้นเดิมออกไป ทำลายรูปเคารพและสถานนมัสการพระอื่นให้หมด ทำให้ผมคิดถึงบัญญัติ 10 ประการข้อต้น

”“เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือจากแดนทาส “ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา “ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน ห้ามกราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน แต่แสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และรักษาบัญญัติของเราจนถึงนับพันชั่วอายุคน“
อพยพ‬ ‭20‬:‭2‬-‭6‬ ‭

ข้อตกลงที่พระเจ้าให้ไว้คือ ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน ห้ามกราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่รักและหวงแหนคนของพระองค์ ถ้าเราไม่อยู่ในข้อตกลงของพระองค์ สิ่งที่ต้องพบเจอนั้นน่ากลัว คือโทษของพ่อจะตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ไม่ปฎิบัติตาม การไม่ปฎิบัติตาม ข้อความจากพระคัมภีร์ได้ให้ความหมายว่าเป็นผู้ที่เกลียดชังพระเจ้า โทษนั้นจะไปถึงลูกหลานถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน แต่หากเราอยู่ในข้อตกลง พระคัมภีร์ให้ความหมายของคนที่ประพฤติปฎิบัติตามว่า คือคนที่รักพระเจ้า พระเจ้าจะให้พระพรคือความรักมั่นคงต่อคนนั้น หากเรารักพระเจ้าและรักษาตัวเองให้อยู่ในข้อตกลง พระพรของพระเจ้าจะมาถึงลูกหลานของเรานับพันชั่วอายุคน พวกเราเลือกอะไร เป็นคนที่ชังพระเจ้า ไม่ยอมอยู่ในข้อตกลง หรือเป็นคนที่รักพระเจ้า พาตัวเองมาอยู่ในข้อตกลง คำสาปแช่งหรือพระพร ขึ้นอยู่กับเรา เลือกเอาเอง
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 25, 202407:51
Ep.25 จงดำเนินชีวิต แบบ”พอ“!

Ep.25 จงดำเนินชีวิต แบบ”พอ“!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(25)

เราควรดำเนินชีวิตแบบ“พอ“!

”ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า
ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์
เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และ
เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน“
‭‭ ~โรม‬ ‭12‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
”So then, my friends, because of God's great mercy to us I appeal to you:
Offer yourselves as a living sacrifice to God, dedicated to his service and
pleasing to him. This is the true worship that you should offer.“
‭‭ ~Romans‬ ‭12‬:‭1‬ ‭GNT‬‬

ใช่ครับ เราควรดำเนินชีวิต แบบรู้จัก“พอ”
เพราะจะทำให้
1.เราไม่มีทุกข์ หรือ มีทุกข์น้อยลง
2.เรามีความสุขมากขึ้น
3.เราไม่ทำให้คนอื่นทุกข์
4.เราทำให้คนอื่นมีความสุข และเหนือสิ่งอื่นใด
5.เราทำให้พระเจ้า ชอบพระทัย และสุขในฤทัย

ในวันนี้ จะกล่าวถึง 4แนวทางในการดำเนินชีวิตแบบ”พอ“ ดังนี้

1.“พอเพียง”

“พอเพียง” หมายถึง “ได้เท่าที่กะไว้ มีพอสำหรับดำรงชีวิตอยู่ ”

คำว่า พอเพียง ประกอบด้วยคำว่า “พอ กับ เพียง”

1).พอ
มีความหมายหลายอย่าง อาทิ
ก.เท่ากับที่ต้องการ
ข.เท่ากับที่จำเป็น เช่น
~เราอยู่กัน ๒ คน หุงข้าวแค่ถ้วยเดียวก็พอ.
~เรามีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง.
ค.สมควรแก่การ
ง.สมควรที่จะทำได้
เช่น เขามีเงินพอที่จะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศได้.
จ.อยู่ในระดับปานกลาง เช่น
พอจะรู้ คือ รู้อยู่บ้าง.
หน้าตาพอดูได้ คือ
หน้าตาไม่สวยแต่ไม่ขี้เหร่.
ฉ. ไล่เลี่ยกัน เท่า ๆ กัน เช่น
เด็ก ๒ คนนี้เก่งพอกัน.

2).เพียง
หมายความว่า
ก.แค่ เท่านั้น เช่น
~ผมเป็นเพียงผู้ประสานงาน ไม่มีอำนาจตัดสินใจ.
~เขาใช้จ่ายจนเหลือเงินเพียง ๑๐ บาท.
ข.เสมอ เท่า เช่น แม่รักลูกเพียงดวงใจ.

ใน พระคัมภีร์ มีเรื่องของยาโคบที่อ้อนวอนขอให้เอซาวรับของขวัญ
โดยกล่าวว่าเขายังมีอีกเพียงพอ ถึงแม้จะให้แก่เอซาวไปส่วนหนึ่งแล้วก็ตาม

”ข้าพเจ้าขอท่านรับของขวัญที่นำมาให้ท่าน
เพราะพระเจ้าทรงกรุณาข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็มีพอเพียงแล้ว”
ท่านอ้อนวอนเอซาว เขาจึงรับไว้“
‭‭ ~ปฐมกาล‬ ‭33‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬

2.“พอดี”

”พอดี“หมายความว่า “กำลังดี พอเหมาะพอเจาะ พอดิบพอดี”

ในพระคัมภีร์ ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิต เตือนสติให้เรารู้จักกินอย่างพอดี

”ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง จงกินแต่พอดี
เกรงว่าเจ้าจะอิ่มและอาเจียนออกมา“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭25‬:‭16‬ ‭THSV11‬‬

3.“พอใจ”

“พอใจ” หมายความว่า “สมใจ ชอบใจ”

1).ผู้เขียนพระธรรมฮิบรูเตือนสติเราทั้งหลาย ให้รู้จักพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่!

”ท่านอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่
เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย”“
‭‭ ~ฮีบรู‬ ‭13‬:‭5‬ ‭THSV11‬‬

2).อาจารย์ เปาโลก็เตือนทิโมธี และพวกเราให้รู้จักพอใจใน
ก.สิ่งที่เรามีอยู่ หรือ
ข.สภาพที่เราเป็นอยู่ เช่นกัน

”เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกเช่นไร เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้เช่นกัน ถ้ามีอาหารและเสื้อผ้า เราก็ควรพอใจในสิ่งเหล่านั้น“
~‭‭1 ทิโมธี‬ ‭6‬:‭7‬-‭8‬ ‭THSV11‬‬

”ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเนื่องจากความขัดสน เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพที่เป็นอยู่“
‭‭ ~ฟีลิปปี‬ ‭4‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬

4.“พอพระทัย”

”พอพระทัย“ในที่นี้ หมายถึง “สมพระทัยพระเจ้าหรือพระเจ้าชอบพระทัย”

1).โมเสส เตือนชาวอิสราเอล รวมทั้งพวกเราในสมัยนี้ ให้เรารักษาพระบัญญัติกฎเกณฑ์ของ
พระเจ้า เพราะทำอย่างนั้น พระเจ้าทรงพอพระทัย
”พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงทำให้ท่านจำเริญมั่งคั่งอย่างยิ่งในกิจการที่มือท่านทำ ในพงศ์พันธุ์ของตัวท่านเอง ในผลแห่งฝูงสัตว์ และในผลแห่งพื้นดินของท่าน เพราะพระยาห์เวห์จะพอพระทัยที่จะให้ท่านจำเริญมั่งคั่ง ดังที่พระองค์ทรงปีติยินดีในบรรพบุรุษของท่าน ถ้าท่านฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยรักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือแห่งธรรมบัญญัตินี้ ถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน“
‭‭ ~เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭30‬:‭9‬-‭10‬ ‭THSV11
2).อาจารย์ เปโตร ก็กำชับให้เรายืนหยัดสู้ทนเมื่อประสบกับการข่มเหงเพราะทำดี เพราะทำอย่างนี้ จะทำให้พระเจ้าพอพระทัย
”เพราะจะเป็นความดีความชอบอย่างไร ถ้าพวกท่านสู้ทนเมื่อถูกเฆี่ยนเพราะการทำชั่วนั้น?
แต่ถ้าพวกท่านทำดีและต้องทนทุกข์ลำบาก
สิ่งนี้ก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า“
~‭‭1 เปโตร‬ ‭2‬:‭20‬ ‭THSV11‬‬
3).อาจารย์เปาโล ก็บอกพวกเราว่า การกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีนี้
เป็นสิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย
”จงให้เกียรติแก่บรรดาแม่ม่ายไร้ที่พึ่ง ถ้าแม่ม่ายคนไหนมีลูกหรือหลาน ก็ให้เขาทั้งหลายเรียนรู้การทำหน้าที่ในทางพระเจ้าต่อครอบครัวของตนก่อน และให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า“
~‭‭1 ทิโมธี‬ ‭5‬:‭3‬-‭4‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก
จากนี้ไป ให้พวกเรามา ดำเนินชีวิต แบบ
1.พอเพียง
2.พอดี
3.พอใจ และ
4.พอพระทัย

…จะดีไหมครับ?
Apr 24, 202410:31
Ep.24 ปอพยสฉมส!

Ep.24 ปอพยสฉมส!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(24)

“ปอพยสฉมส!

”เพราะฉะนั้น ในเมื่อพวกท่านรับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าไว้แล้ว
ก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ด้วย
จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์
จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ
จงให้การขอบพระคุณทวียิ่งขึ้น“
‭‭ ~โคโลสี‬ ‭2‬:‭6‬-‭7‬ ‭THSV11‬‬
”So then, just as you received Christ Jesus as Lord,
continue to live your lives in him, rooted and built up in him,
strengthened in the faith as you were taught,
and overflowing with thankfulness.“
‭‭ ~Colossians‬ ‭2‬:‭6‬-‭7‬ ‭NIV‬‬

Lailah Gifty Akita กล่าวว่า

“อย่ากลัวที่จะเดินทางบนเส้นทางใหม่!”
( Never be afraid to travel on a new path.

“ชีวิตคริสเตียน” เป็นดุจ “การเดินทางใหม่” ซึ่งเป็น
1.กระบวนการ(Process) ไม่ใช่
2.เหตุการณ์(Event)

ชีวิตบทเส้นทางของผู้ที่ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ จะมีลำดับเป็นดังนี้

1.เรากลับใจจากบาป มาหาพระเจ้าพระบิดา
2.เรารับการไถ่บาปและพ้นจากโทษบาป โดยพระเยซูคริสต์
3.เราต้อนรับพระเยซูคริสต์และยอมให้พระองค์เป็น
1).พระผู้ช่วยให้รอด(Savior)
2).องค์พระผู้เป็นเจ้า หรือ เจ้านาย (Lord)ในชีวิตของเรา
4.เรายอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์
1).นำทางชีวิต และ
2).ค่อยๆเปลี่ยนแปลง(Transform)ชีวิตของเรา
ให้เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์(Christlike)
5.เราดำเนินชีวิตใหม่ ตามแนวทางของพระเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์(Bible)
1).ไม่ใช่คำสอนของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ว่าจะเก่งหรือจะดังแค่ไหน
2).ไม่ใช่คำสอนของกลุ่มหรือคณะใดคณะหนึ่ง ไม่ว่าจะโน้มน้าวใจสักแค่ไหน
6.เรามีความรับผิดชอบในการ
1).หยั่งราก และ
2).ก่อร่างสร้าง ตัวเองขึ้นในพระองค์
7.เราต้องมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ
8.เราต้องทำให้เกิดการขอบพระคุณทวียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เราต้องตระหนักว่า
การเป็นคริสเตียนที่ดี
1.เป็นกระบวนการหยั่งรากและเติบโตตลอดทั้งชีวิตของเรา
2.เป็นการพัฒนาชีวิตของเราตามลำดับซึ่งไม่อาจ
1).เกิดขึ้นและ
2).เสร็จสิ้นภายในวันเดียว
3.เป็นขั้นตอนการก่อสร้างชีวิตของเราที่ต้องใช้เวลายาวนาน
จนกว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ในวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมารับเรา
4.เป็นการดำเนินชีวิต ไม่ใช่เพื่อศาสนาคริสต์ แต่เพื่อทำดีถวายแด่พระเจ้า
โดยผู้ที่ได้รับผลดีจากการทำดีของคริสเตียน คือ คนในโลกนี้ ที่ได้
1).รู้จักพระเจ้า
2).รับความรอด และ
3).ได้รับความสุขแท้ อิ่มเอมใจจากพระเจ้า
ส่วนคริสเตียนนั้น ได้ความสุขและความชื่นชมยินดีเป็นผลพลอยได้
ไม่ใช่เป้าหมาย!)

ดังนั้น ในขณะที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่
1.เรามีภารกิจที่ต้องทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
2.เรามีความรับผิดชอบ ในการดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อ
1).ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
2).ทำคุณประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์
3.เราต้องตระหนักว่า เราแต่ละคนต่างก็ล้วนไม่มีผู้ใดสมบูรณ์แบบเลยสักคน
4.เราทุกคนล้วนอยู่ในช่วงเวลาของการ “กำลังก่อสร้าง”(under construction)
ที่อาจจะสร้างความอึดอัด ความไม่สะดวก ความไม่สบายใจ หรือความไม่พอใจ
รวมทั้งความโกรธเคือง ความเจ็บปวด หรือ ความเสียหายให้แก่ผู้อื่น

เราจึงควรมีสิ่งต่อไปนี้ มอบให้แก่กันและกัน นั่นคือ
1.อดทน
2.อภัย ให้
3.โอกาส ต่อผู้อื่น อยู่เสมอ
เหมือนกับที่ตัวเราเองก็ต้องการสิ่งเหล่านั้นจากพวกเขาเช่นกัน

ประโยคที่เราต้องหัดฟัง และหัดพูดกับกันและกันอยู่เสมอ ก็คือ
“ปอพยสฉมส!”
ที่หมายความว่า

”ป~โปรด
อ~อดทน
พ~พระเจ้า
ย~ยัง
ส~สร้าง
ฉ~ฉัน
ม~ไม่
ส~เสร็จ!“

…เห็นด้วยไหมครับ?


~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
24เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 23, 202410:53
Ep.23 หลากหลายอย่างไรให้น่าชื่นใจ?

Ep.23 หลากหลายอย่างไรให้น่าชื่นใจ?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(23)

หลากหลายอย่างไรให้น่าชื่นใจ?

”ดูเถิด เป็นการดีและน่าชื่นใจมากสักเท่าใด
ที่พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว“
‭‭ ~สดุดี‬ ‭133‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
”How good and pleasant it is when
God’s people live together in unity!“
‭‭ ~Psalms‬ ‭133‬:‭1‬ ‭NIV‬‬

Helen Keller(1880-1968)กล่าวว่า

“ ทำลำพัง เราทำได้แค่นิดหน่อย
ทำร่วมกัน เราทำได้มากมาย!”
(Alone we can do so little;
together we can do so much.)

“คนหลากหลาย อยู่กัน ได้อย่างไร?
จะไปไว ก็ให้ ไปคนเดียว
จะไปไกล ไปด้วยกัน ต้องไม่เบี้ยว
รอประเดี๋ยว เร่งอีกหน่อย ก้าวทันกัน

ความหลากหลาย งดงาม น่าชื่นชม
รสนิยม แตกต่าง ใช่ประเด็น
หากเป็นหนึ่ง งานเสร็จ ไม่ยากเข็ญ
ผลงานเด่น เมื่อภาวะ วุฒิมี

ความแตกต่าง ใช่ว่า เป็นปัญหา
ใช้ปัญญา คู่ความรัก เกิดผลมาก
หากถ่อมใจ ทำอะไร ได้หลายหลาก
ใช่เรื่องยาก หากมี พระเจ้าช่วย

จงเรียนรู้ จัดการ ความหลากหลาย
ไม่ดูดาย ประสาน รับผิดชอบ
จงสามารถ หลอมรวม อย่างรอบคอบ
จงน้อมนอบ ร่วมมือ ด้วยเข้าใจ

ทัศนะ ภาพรวม ต้องมาก่อน
นำคำสอน พระเจ้า เป็นแนวทาง
พร้อมรายงาน ผลลัพธ์ ได้ทุกอย่าง
หาข้ออ้าง ไม่เชื่อฟัง ต้องไม่มี

แม้หลากหลาย จงมอง เห็นคุณค่า
อย่าทำซ่า ทำบ้า ดูถูกใคร
จงช่วยเขา รักเขา ผูกพันไว้
จงทำใจ เราทำได้ ไม่ทุกอย่าง

จะรับมือ ความหลากหลาย อย่าใจร้อน
คิดดีก่อน ปล่อยให้ ใจระเบิด
อย่าตัดสิน ด้วยอารมณ์ ใจเย็นเถิด
แล้วจะเกิด ผลดี น่าแปลกใจ

แม้หลากหลาย ให้พระเจ้า เป็นที่หนึ่ง
เรื่องน่าทึ่ง เอกภาพ เกิดขึ้นได้
เป็นการดี เกินบรรยาย น่าชื่นใจ
พรยิ่งใหญ่ ท่วมท้น ท่ามกลางเรา!“

พี่น้องรัก
พระเยซูคริสต์ได้ทำให้เราที่มาจากภูมิหลังอันหลากหลายได้กลายมาเป็นหนึ่งเดียวกัน
แล้วโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้น แล้วเราไม่จำเป็นจะต้องพยายามสร้างความเป็นหนึ่งใดขึ้นมาใหม่
เราเพียงแค่ต้องรักษาความเป็นหนึ่งนั้นไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
เหมือนอย่างที่อาจารย์เปาโลได้กล่าวไว้ว่า

”จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น
โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน“
‭‭ ~เอเฟซัส‬ ‭4‬:‭3‬ ‭THSV11‬‬
(Make every effort to keep the unity of the Spirit
through the bond of peace.)
‭‭ ~Ephesians‬ ‭4‬:‭3‬ ‭NIV‬‬

Thomas Merton(1915~1968) ก็กล่าวยืนยัน เช่นกันว่า

“ เราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว แต่เราไปคิดเอาเองว่าเราไม่ได้เป็น
สิ่งที่เราควรรื้อฟื้นก็คือเอกภาพดั้งเดิมของเรา
สิ่งที่เราต้องมี ก็คือ สิ่งที่เราเป็น!”
(We are already one. But we imagine we are not.
And what we have to recover is our original unity.
What we have to be is what we are.”

ดังนั้น ขอให้เราทั้งหลาย มาร่วมแรงร่วมใจกัน
หลอมรวมความหลากหลายของเราให้กลับเป็นหนึ่ง
ตามพระประสงค์ดั้งเดิมของพระเจ้า

…จะดีไหม?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
23เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

Apr 22, 202409:51
Ep. 936 ถึงอย่างไร...ถึงกระนั้น

Ep. 936 ถึงอย่างไร...ถึงกระนั้น

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ถึงอย่างไร...ถึงกระนั้น Ep.936

ภาระกิจของผมในช่วงนี้ต้องออกจากบ้านที่บางคล้าแต่เช้าทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน จึงขอนำพระธรรมสดุดีที่ผมใช้เวลากับพระเจ้ามาแบ่งปันกับพวกเรา ขอให้กำลังใจพวกเราด้วยพระธรรมสดุดีบทที่ 22 ขอพระเจ้าปลอบโยนพวกเราที่อาจจะตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก ที่กำลังอยู่ในเวลาที่พระเจ้าเงียบไม่ตอบอะไร เราอาจจะร้องทูลต่อพระองค์เหมือนพระธรรมสดุดีบทนี้

”พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย? เหตุใดพระองค์ทรงเมินเฉยต่อการช่วยกู้ข้าพระองค์และต่อถ้อยคำคร่ำครวญของข้าพระองค์? ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลในเวลากลางวัน แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบ ถึงเวลากลางคืน ข้าพระองค์ไม่มีความสงบเลย“
สดุดี‬ ‭22‬:‭1‬-‭2‬ ‭

ในเวลาที่ใจว้าวุ่น ความรู้สึกจะบอกว่าไม่ต้องอธิษฐานไม่ต้องพึ่งพาพระเจ้าหรอก ขอพระเจ้านำให้เราจะหยุดถูกหลอกด้วยความรู้สึกที่อ่อนไหว ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเรา ขอพระเจ้านำเราเข้าสู่ความจริงของพระองค์คือพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นจริง มั่นคง ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

”ถึงอย่างไร พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ ผู้ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายวางใจในพระองค์ เขาทั้งหลายวางใจ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นภัย พวกเขาร้องทูล พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้รอด เขาวางใจในพระองค์ เขาจึงไม่อับอาย“
‭‭สดุดี‬ ‭22‬:‭3‬-‭5‬ ‭

คำสำคัญของผมในเช้านี้คือ ถึงอย่างไร ไม่ว่าเราจะรู้สึกอะไร พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้าองค์เดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทรงเป็นความรักที่มั่นคงดำรงอยู่นิรันดร์ พระเจ้าจึงทรงสมควรแก่การสรรเสริญ เรื่องราวที่พระองค์ทรงกระทำต่อคนของพระองค์ยืนยันว่าพระเจ้าไม่เคยปล่อยคนของพระองค์ไปเลย พระเจ้าจึงเป็นผู้สมควรแก่การสรรเสริญนมัสการ

”ถึงกระนั้น พระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยอยู่ที่อกแม่ ตั้งแต่คลอด ข้าพระองค์ก็ต้องพึ่งพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังอยู่ในครรภ์มารดา ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์ เพราะความยากลำบากอยู่ใกล้ และไม่มีผู้ใดช่วยได้เลย“
‭‭สดุดี‬ ‭22‬:‭9‬-‭11‬ ‭

เป็นคำคล้ายๆกัน ถึงอย่างไร กับ ถึงกระนั้น แม้ว่าสถานการณ์ของเราจะถูกผู้คนรอบตัวเยาะเย้ย ดูหมิ่นถากถางจนตัวเราเองรู้สึกไร้ค่า รู้สึกว่าตัวเราเองตัวเล็กแบบหนอน เราอาจจะดูหมิ่นถากถางว่า ปล่อยให้พระเจ้าของเขาช่วยเขา พี่น้องที่รัก พูดมาออกว่า ถึงอย่างไร ถึงอย่างไรเราจะยังคงสรรเสริญนมัสการพระเจ้า เพราะพระองค์เท่านั้นที่พาเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้ หยุดอธิษฐานแบบที่เคยชินว่า ถ้าพระองค์ทำแบบนี้ ลูกจะทำแบบนี้ให้ ขอให้กำลังใจทุกคนที่จะเปลี่ยนจากคำว่า ถ้า มาเป็นคำว่า ถึงอย่างไร ถึงกระนั้น ให้เราอธิษฐานแบบนี้ว่า ไม่ว่าข้าพระองค์จะอยู่ในสถานการณ์ใด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ถึงกระนั้นข้าพระองค์จะสรรเสริญนมัสการพระองค์ด้วยความไว้วางใจอย่างสุดใจว่า พระเจ้าเพียงเท่านั้นที่ช่วยให้พ้นจากสถานการณ์ที่เลวร้ายทุกอย่าง ขอพระวิญญาณของพระเจ้านำให้เรารู้สึกถึงการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ นำให้เรารู้สึก สำนึกได้ว่าเราไม่เคยโดดเดี่ยว หรือถูกทิ้งปล่อยไว้ให้ลำพัง ให้เราขอกำลังจากพระเจ้าทั้งสามจะนำให้พวกเราเดินอยู่ในทางของพระเจ้า ให้ชีวิตของเราเป็นไปตามความชอบพระทัยของพระองค์
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 22, 202408:31
Ep.22 จะจัดการกับคนหลากหลายอย่างไรดี?

Ep.22 จะจัดการกับคนหลากหลายอย่างไรดี?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(22)

จะจัดการกับคนหลากหลายอย่างไรดี?

”เพราะว่าในร่างกายเดียวนั้น เรามีอวัยวะหลายอย่าง
และอวัยวะนั้นๆ มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร
เราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายเดียวในพระคริสต์และเป็นอวัยวะแก่กันและกันอย่างนั้น“
‭‭ ~โรม‬ ‭12‬:‭4‬-‭5‬ ‭THSV11‬‬
”We have many parts in the one body, and all these parts have different functions.
In the same way, though we are many, we are one body in union with Christ,
and we are all joined to each other as different parts of one body.“
‭‭ ~Romans‬ ‭12‬:‭4‬-‭5‬ ‭GNT‬‬

Catherine Pulsifer กล่าวว่า

“ พวกเราล้วนแตกต่างกัน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอด
เพราะว่าพวกเราต่างก็ล้วนมีเอกลักษณ์ของตัวเองทั้งสิ้น
หากปราศจากความหลากหลาย
ชีวิตก็คงจะกลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากเหลือเกิน!”
(We are all different, which is great because we are all unique.
Without diversity, life would be very boring.”


คำว่า “ความหลากหลาย” ถูกเรียกในหลายชื่อ อาทิ
Diversity,Variety,Plurality หรือ Difference

คำว่า” Diversity “ ที่เราแปลว่า “ความหลากหลาย” นั้นหมายความถึง

“ข้อเท็จจริงของรูปแบบที่แตกต่างกันจำนวนมากของสิ่งของหรือคน ที่ถูกรวมอยู่ในบางสิ่ง”
(the fact of many different types of things or people being included in
something; a range of different things or people:)

“Diversity ”หรือ “ความหลากหลาย”
จึงหมายถึง “พิสัย หรือ ขอบข่ายความแตกต่างของมนุษย์เรา รวมทั้งสิ้นอย่างไม่จำกัด ในเรื่อง เชื้อสาย ชาติพันธุ์ เพศ อัตลักษณ์ทางเพศ แนวโน้มรสนิยมทางเพศ อายุ ชนชั้นทางสังคม สมรรถนะทางกายภาพ คุณลักษณะ ระบบค่านิยมทางศาสนา หรือ คุณธรรม ชาติกำเนิด และ ลัทธิความเชื่อทางการเมือง”

อาจารย์เปาโลกล่าวถึง
1.ความหลากหลาย หรือ
2.ความแตกต่าง
ในท่ามกลางพวกเราในคริสตจักร
โดยบอกว่าพวกเราล้วนเป็นอวัยวะหลากหลาย
ที่ถูกกำหนดมาให้ทำหน้าที่ที่ไม่เหมือนกัน
ในร่างกายของพระเยซูคริสต์ซึ่งล้วนเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกันทั้งสิ้นไม่ว่า
1). จะเล็ก หรือ ใหญ่
2).จะโดดเด่น หรือ ต่ำต้อย
3).จะเห็นชัด หรือ ซ่อนอยู่
4).จะดูสวยงาม หรือ ดูอัปลักษณ์

เราทุกคนจึงควรที่จะรับมือ และจัดการกับ “ความหลากหลาย” ด้วย
1.ทัศนคติที่ถูกต้อง และ
2.การปฏิบัติอย่างเหมาะสม
ตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยพึ่งพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์

อาจารย์เปาโลกล่าวดังนี้ว่า
”ข้าพเจ้าขอกล่าวแก่ท่านทุกคนโดยพระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า
1.อย่าคิดถือตัวเกินที่ตนควรจะคิดนั้น แต่
2.จงคิดอย่างสุขุมสมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน
เพราะว่าในร่างกายเดียวนั้น
1).เรามีอวัยวะหลายอย่าง
2).อวัยวะนั้นๆ มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร
3).เราผู้เป็นหลายคนยัง
ก.เป็นกายเดียวในพระคริสต์และ
ข.เป็นอวัยวะแก่กันและกันอย่างนั้น
3.จงทราบว่าเราทุกคนมีของประทานต่างกัน ตามพระคุณที่ประทานแก่เรา
4.จงใช้ของประทานที่เรามีแตกต่างกันให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างสูงสุด
1).ถ้าของประทานเป็นการเผยพระวจนะ~ ก็จงเผยตามกำลังของความเชื่อ
2).ถ้าเป็นการปรนนิบัติ ~ก็จงปรนนิบัติ
3).ถ้าเป็นผู้สั่งสอน~ ก็จงสั่งสอน
4).ถ้าเป็นผู้เตือนสติ ~ก็จงเตือนสติ
5).ถ้าเป็นผู้ที่ให้ ~ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง
6).ถ้าเป็นผู้ที่ครอบครอง~ ก็จงครอบครองด้วยเอาใจใส่
7).ถ้าเป็นผู้ที่แสดงความเมตตา ~ก็จงแสดงด้วยใจยินดี“
‭‭ ~โรม‬ ‭12‬:‭3‬-‭8‬ ‭THSV11‬‬

ดังนั้นพี่น้องที่รัก
เราจึงควร
1.ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์(Purity)เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในทางเลวร้าย
1).ต่อตัวเองและ
2).ต่อคนอื่นๆในคริสตจักร
2.อยู่ด้วยกันกับคนอื่นอย่างมีวุฒิภาวะ (Maturity)ท่ามกลางความหลากหลาย(Diversity) และ
3.ทำงานรับใช้พระเจ้าร่วมกับคนอื่น
ตามของประทานในพันธกิจ(Ministry)ต่างๆด้วยกันได้
1).อย่างมีความถ่อมใจ (Humility)
2).อย่างประสานกลมกลืน(Harmony)
3).อย่างมีเอกภาพ(Unity)

โดยขอให้เรา ไม่ตระหนกกลัวว่า
ความแตกต่าง เป็นสิ่งที่
1.เลว หรือ
2.ร้าย

แต่ให้เราตระหนักว่าความหลากหลายนั่น เป็นสิ่งที่
1.ดี และ
2.สวยงาม
ตามการรังสรรค์ของพระเจ้า

ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ความแตกต่าง หรือ ความหลากหลาย
แต่อยู่ที่ความไร้สามารถในการตอบสนองต่อความแตกต่างที่อยู่
1).ข้างหน้าเรา หรือ
2).ในท่ามกลางเรา
อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ

วันนี้
พี่น้องที่รัก
คุณมีท่าทีหรือ ทัศนคติ ต่อความหลากหลาย
1.ในคริสตจักรและ
2.ในสังคมที่คุณอยู่
อย่างไรบ้าง?
แล้ว ทัศนคติเหล่านั้น ส่ง
1).ผลดี หรือ
2).ผลเสีย
ต่อภารกิจที่คุณรับผิดชอบอยู่

คุณเห็นด้วย กับ George Herbert Mead หรือไม่ ที่เขากล่าวว่า

“สังคมคือเอกภาพในความหลากหลาย!”
(Society is unity in diversity.)

ถ้าอย่างนั้น ให้เรามาจัดการ ทำให้
“คริสตจักรของเรา เป็น เอกภาพในความหลากหลายของผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์
อย่างแท้จริง!”
…จะดีไหม?

Apr 21, 202411:25
Ep.12 ว่าด้วยเรื่องหมอดู

Ep.12 ว่าด้วยเรื่องหมอดู

มีเรื่องกังวลหลายเรื่องเลยฮะอาจารย์ สมัยก่อนเชื่อพระเจ้าก็ใช้ไปหาหมอดูเอาเพื่อลดความกังวล และอยากรู้ผลล่วงหน้า เผื่อเขาทายถูก แต่พอเชื่อพระเจ้าแล้วควรทำได้ฮะ‘จารย์
Apr 21, 202418:09
สัมพันธ์ภาพแบบกันและกัน (One Another)

สัมพันธ์ภาพแบบกันและกัน (One Another)

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(21)

สัมพันธภาพแบบ
“กันและกัน“(One Another)!

”จงยอมเชื่อฟังกันและกัน
เนื่องด้วยความยำเกรงพระคริสต์“
‭‭ ~เอเฟซัส‬ ‭5‬:‭21‬ ‭THSV11‬‬
”Submit to one another
out of reverence for Christ.“
‭‭ ~Ephesians‬ ‭5‬:‭21‬ ‭NIV‬‬

วลีว่า “กันและกัน”ปรากฎอยู่ในพระคัมภีร์ใหม่ ราว100ครั้ง
ทั้งในความหมายบวกและความหมายลบ
พระคัมภีร์ได้ให้ความสำคัญในเรื่องสัมพันธภาพระหว่างกันไว้มาก

คริสเตียนจึงควรมีความสัมพันธ์ที่ดี ทั้ง
1.กับพระเจ้า และ
2.กับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น
1).คนในบ้าน ในครอบครัว
2).คนในโบสถ์ ในคริสตจักร ในองค์กร หรือ ในหมู่คณะ
3).คนนอกโบสถ์ เช่น
~คนที่ทำงาน
~คนในสถานศึกษา
~คนในชุมชน
ฯลฯ

คุณลักษณะที่ดี แบบ“กันและกัน” ที่ทุกคนพึงมีต่อกันในปฏิสัมพันธ์
หรือ ในสัมพันธภาพท่ามกลางคนที่อยู่ด้วยกัน
1.ในคริสตจักร หรือ
2.ในสังคมเดียวกัน
ควรจะเป็น“สัมพันธภาพ”(RELATIONSHIPS)แบบดังต่อนี้ คือ

R~ Respect one another(จงให้เกียรติแก่กันและกัน)
”จงรักกันฉันพี่น้อง จงขวนขวายในการให้เกียรติกันและกัน“
‭‭ ~โรม‬ ‭12‬:‭10‬ ‭THSV11‬‬

E~ Encourage one another(จงหนุนใจเตือนสติกันและกัน)
”เพราะฉะนั้นจงหนุนใจกัน และต่างคนต่างจงเสริมสร้างกันขึ้น
ตามอย่างที่พวกท่านกำลังทำอยู่นั้น“
~‭‭1 เธสะโลนิกา‬ ‭5‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬

L~ Love one another(จงรักซึ่งกันและกัน)
”ถ้าท่านรักกันและกัน ดังนี้แหละทุกคนก็จะรู้ว่า
ท่านเป็นสาวกของเรา”“
‭‭ ~ยอห์น‬ ‭13‬:‭35‬ ‭THSV11‬‬

”เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก เพราะความรักให้อภัยบาปมากมายได้“
~‭‭1 เปโตร‬ ‭4‬:‭8‬ ‭THSV11‬‬

A~ Accept one another(จงยอมรับต้อนรับกันและกีน)
”เพราะฉะนั้นจงต้อนรับกันและกัน เช่นเดียวกับที่พระคริสต์ได้ทรงต้อนรับท่าน
เพื่อพระเกียรติของพระเจ้า“
~‭‭โรม‬ ‭15‬:‭7‬ ‭THSV11‬‬

T~ Thank one another(จงขอบคุณกันและกัน)
”ขอทักทายมายังนางปริสคาและอาควิลลา ผู้ร่วมงานกับข้าพเจ้าในพระราชกิจ
ของพระเยซูคริสต์ ซึ่งได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอขอบคุณเขาทั้งสอง ไม่เพียงข้าพเจ้าคนเดียว
แต่คริสตจักรทุกแห่งของคนต่างชาติด้วย“
‭‭ ~โรม‬ ‭16‬:‭3‬-‭4‬ ‭THSV11‬‬

I ~ Iron one another(จงลับคมให้กันและกัน)
”เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนให้เฉียบแหลมได้ฉันนั้น“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭27‬:‭17‬ ‭THSV11‬‬

O ~ Offer hospitality to one another(จงมีอัธยาศัยไมตรีต่อกันและกัน)
”พวกท่านจงต้อนรับเลี้ยงดูกันและกันโดยไม่บ่น“
‭‭ ~1 เปโตร‬ ‭4‬:‭9‬ ‭THSV11‬‬

N ~Nourish one another(จงเลี้ยงดูฟูมฟักกันและกัน)
”จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน [โดยเอาใจใส่ดูแล]
ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ [ตามพระประสงค์ของพระเจ้า]
ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่งของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น“
~‭‭1 เปโตร‬ ‭5‬:‭2‬ ‭THSV11‬‬
”พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?”
เปโตรเสียใจมากที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “ท่านรักเราหรือ?”
เขาจึงทูลพระองค์ว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้ดีว่าข้าพระองค์รักพระองค์”
พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด“
‭‭ ~ยอห์น‬ ‭21‬:‭17‬ ‭THSV11‬‬

S~ Serve one another(จงรับใช้กันและกัน)
”พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาส
ใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด“
‭‭ ~กาลาเทีย‬ ‭5‬:‭13‬ ‭THSV11‬‬

H~ Help one another(จงช่วยเหลือกันและกัน)
”พี่น้องทั้งหลาย ขอให้พวกท่านตักเตือนคนที่เกียจคร้าน หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญ
ช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง และมีความอดทนต่อทุกคน“
~‭‭1 เธสะโลนิกา‬ ‭5‬:‭14‬ ‭THSV11‬‬

I~ Intercede for one another(จงอธิษฐานและทูลขอเผื่อกันและกัน)
”เพราะฉะนั้นก่อนสิ่งอื่นใดทั้งหมด ข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านให้วิงวอน อธิษฐาน
ทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อทุกคน“
~‭‭1 ทิโมธี‬ ‭2‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
”เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเผื่อกันและกัน
เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรค คำวิงวอนของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล“
‭‭ ~ยากอบ‬ ‭5‬:‭16‬ ‭THSV11‬‬

P~Pardon one another(จงขออภัยและให้อภัยกันและกัน)
”จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน
ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย“
‭‭ ~โคโลสี‬ ‭3‬:‭13‬ ‭THSV11‬‬

S~ Submit to one another(จงยอมฟังกันและกัน)
”จงยอมเชื่อฟังกันและกันเนื่องด้วยความยำเกรงพระคริสต์“
‭‭ ~เอเฟซัส‬ ‭5‬:‭21‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก
หากสัมพันธภาพของคนในครอบครัวของเรา
จะเป็นต่อ“กันและกัน”อย่างเช่นดังที่กล่าวมาแล้ว
ทั้งทาง
1).ฝ่ายกาย หรือ
2).ฝ่ายจิตวิญญาณ

เราก็จงมั่นใจได้เลยว่า ครอบครัวของเรา
จะไม่มีวันขาดพระพรของพระเจ้า อย่างแน่นอน
…เชื่อไหมครับ?


Apr 20, 202413:11
Ep.935 อย่าให้เสื่อมเสีย

Ep.935 อย่าให้เสื่อมเสีย

พระธรรมนำชีวิต
ตอน อย่าให้เสื่อมเสีย Ep.935

เราสัญญาอะไรกับใครขอให้เรารักษาสัญญาด้วย โมเสสผู้เป็นตัวแทนของพระเจ้ายิ่งต้องรักษาคำพูดทุกคำที่พูดออกมา พวกเราก็เช่นกัน วันนี้เราเป็นตัวแทนของพระเยซูขอให้เราใช้ชีวิตโดยระมัดระวังแบบสุดๆที่จะไม่ทำให้พระเยซูเสื่อมเสียพระเกียรติ

”โมเสสจึงสั่งเอเลอาซาร์ปุโรหิตและโยชูวาบุตรนูน ทั้งบรรดาหัวหน้าสกุลของเผ่าต่างๆ ของคนอิสราเอลเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขา“
กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭28‬ ‭

นี่เป็นช่วงท้ายของชีวิตของโมเสส ซึ่งพระเจ้าบอกกับโมเสสแล้วว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปในดินแดนนั้นด้วย ในความเห็นของผม แม้โมเสสจะจากไปแล้ว แต่คำพูดที่พูดออกไปยังคงมีผลอยู่ เพราะพระสัญญของพระเจ้าอยู่นิรันดร์ โมเสสจึงต้องมีคำสั่งให้คนที่ยังอยู่ หากสั่งไว้จะไม่มีเสีย

”และโมเสสกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “ถ้าคนเผ่ากาดและคนเผ่ารูเบนทั้งหมดที่มีอาวุธทำสงครามจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปพร้อมกับท่านทั้งหลายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และแผ่นดินนั้นพ่ายแพ้ต่อหน้าพวกท่านแล้ว พวกท่านจงมอบแผ่นดินกิเลอาดให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่พวกเขา แต่ถ้าพวกเขาไม่ถืออาวุธข้ามไปกับพวกท่าน พวกเขาจะต้องได้ส่วนแผ่นดินคานาอันร่วมกับท่านเป็นกรรมสิทธิ์” กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭29‬-‭30‬ ‭

คำสั่งนี้จะไม่ทำให้โมเสสหรือพระเจ้าเสียชื่อ เสียคำพูด ในความเห็นของผม ในคำสั่งนี้มีคำสำคัญอยู่คือคำว่า ถ้า และคำว่า แต่ สำหรับพวกเราก็เช่นกัน ถ้าเราอยู่ในข้อตกลงไม่ว่าจะเป็นของพระเจ้ากรือของใครก็ตาม เราจะได้รับตามข้อตกลง แต่ถ้าเราละเมิด ไม่ทำตามข้อตกลงเราจะไม่ได้รับอะไรเลย

”คนเผ่ากาดกับคนเผ่ารูเบนตอบว่า “พระยาห์เวห์ตรัสกับพวกผู้รับใช้ของท่านอย่างไร ข้าพเจ้าทั้งหลายจะทำอย่างนั้น พวกข้าพเจ้าจะถืออาวุธข้ามไปยังแผ่นดินคานาอันเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ แต่มรดกที่เป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพเจ้านั้นจะคงอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭31‬-‭32‬ ‭

คนทั้งสองเผ่าจึงยืนยันสัญญาว่าเขาจะปฎิบัติตามคำสั่งเพื่อที่จะได้รับตามข้อตกลง โมเสสจึงมอบดินแดนฝั่งนี้แก่คนเผ่ากาดและคนเผ่ารูเบนแล้วก็ให้แก่เผ่ามนัสเสห์ด้วยครึ่งเผ่า ขอพระเจ้าเมตตาเราที่เราเองจะอยู่ในข้อตกลงที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ในข้อสัญญาของพระองค์ และขอให้เราระลึกไว้เสมอว่า พวกเราเป็นตัวแทนของพระเยซู ขอให้เราใช้ชีวิตเพื่อยืนยันพระสัญญาของพระเจ้า เพื่อจะไม่ให้พระเจ้าเสื่อมเสียพระเกียรติ
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 20, 202408:31
Ep.20 คุณเป็นคนเป็นพิษ (Toxic Person) อยู่หรือไม่?

Ep.20 คุณเป็นคนเป็นพิษ (Toxic Person) อยู่หรือไม่?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(20)

คุณเป็นคนเป็นพิษ(a Toxic Person)อยู่หรือไม่?

”พี่น้องเอ๋ย อย่ากล่าวร้ายกันและกัน
คนที่กล่าวร้ายพี่น้องหรือตัดสินพี่น้องของตน
ก็กล่าวร้ายธรรมบัญญัติและตัดสินธรรมบัญญัติ
ถ้าท่านตัดสินธรรมบัญญัติ ท่านก็ไม่ใช่ผู้ประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่เป็นผู้ตัดสิน“
‭‭ ~ยากอบ‬ ‭4‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬
”Brothers and sisters, don’t say evil things about each other.
Whoever insults or criticizes a brother or sister insults and criticizes the Law.
If you find fault with the Law, you are not a doer of the Law but a judge over it.“
‭‭ ~James‬ ‭4‬:‭11‬ ‭CEB‬‬

คนที่มีพฤติกรรมในทางลบ
เขาเรียกกันว่าเป็น ”a toxic person“!(คนเป็นพิษ)

แล้ว คนเป็นพิษ คือ อะไร?
(What Is a Toxic Person?)

คนเป็นพิษ คือคนที่เราอยู่ด้วยยาก และพฤติกรรมของเขา
ก่อเกิด
1).ความเครียด ความหงุดหงิด และผลเชิงลบ
2).ความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางอารมณ์ และ
3).ความขัดแย้งมากมายในชีวิตทั้ง
ก.ต่อตัวเขาเอง และ
ข.ต่อผู้อื่น
ถือว่า เป็นคนจิตไม่ปกติ และ บุคลิกภาพแปรปรวน

สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ใช้คำนี้เรียกคนที่
1.มีนิสัยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
และต้องการให้ทุกคนเห็นด้วยในทุกเรื่อง ใครขัด หรือ ขัดแย้งถือเป็นศัตรู
2.ชอบควบคุมบงการคนอื่น(หรือ จอมบงการ)
3.เจ้าอารมณ์ ฉุนเฉียวง่าย ใครขัดไม่ได้ ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้
4.พูดและกระทำสิ่งที่มักทำให้คนรอบข้าง
1).รู้สึกแย่
2).เครียดหรือ
3).ทุกข์ใจ
เช่นชอบบ่น ชอบวิจารณ์ หรือกล่าวร้ายคนอื่น
5. ชอบตัดสินคนอื่นด้วยความคิดของตัวเอง แต่ไม่ยอมรับฟังคนอื่น
6. ไม่รับผิดชอบต่อความรู้สึกของตัวเองหรือต่อความรู้สึกของของคนอื่น
7. ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิด ไม่ยอมขอโทษแม้รู้ว่าตัวเองทำผิด มักทึกทักว่าตัวเองเป็นเหยื่อ
8. ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น แต่ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น
9. ชอบพูดแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจฟังคนอื่น
ไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เรียกร้องให้คนอื่นเปลี่ยนแทน
10.เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่อาจสนทนากันด้วยเหตุและผล
ดังนั้น การอยู่ใกล้กับคนเป็นพิษนี้ จึงทำร้ายเราทั้ง
1).ร่างกายและ
2).จิตใจ

พี่น้องขอให้เรา ระวังและอยู่ห่างคนเป็นพิษ ถ้าทำได้!

“คนเป็นพิษ Toxic ต้องระวัง
อย่าไปหวัง เปลี่ยนแปลง อะไรเขา
ที่ต้องเปลี่ยน เขาคิด ก็คือเรา
เพราะเขาเอา ตัวเอง เป็นศูนย์กลาง

คนเป็นพิษ ต้องการ คนเห็นด้วย
คุณจะซวย หากคิด ต่างขัดแย้ง
เขาถือเป็น ศัตรู หรือ คู่แข่ง
จะทิ่มแทง เล่นงาน ไม่ปล่อยวาง

คนเป็นพิษ Toxic ชอบบงการ
ชอบวิจารณ์ คนอื่น ให้เสียหาย
เจ้าอารมณ์ ห้ามขัด ฉุนเฉียวง่าย
พูดแทบตาย อย่างไร เขาไม่ฟัง

คนเป็นพิษ ชอบอวด เรื่องตัวเอง
ชอบละเลง ทุกเรื่อง เป็นประเด็น
คนอื่นผิด ของตัว ไม่เคยเห็น
ชอบทำเด่น แต่กด คนอื่นลง

คนเป็นพิษ Toxic ได้ทุกเรื่อง
ชอบทำเขื่อง อวดรู้ ทุกหัวข้อ
พร้อมตอบโต้ ถกเถียง ไม่ยอมง้อ
สามารถต่อ ความยาว สาวความยืด

คนเป็นพิษ ทำร้าย ได้ทุกคน
มักไม่สน จิตใจ ใครผู้ใด
ไม่อภัย ทั้งสิ้น ไม่ว่าใคร
แม้พระทัย พระเจ้า ก็ไม่แคร์

คนเป็นพิษ Toxic ได้เสมอ
ทั้งฉันเธอ อย่าเจอ จะดีกว่า
ใจเต็มด้วย อิจฉา ริษยา
อนิจจา หนีไม่พ้น จะทำไง?”

คนเป็นพิษ หรือ Toxic people เหล่านี้ ล้วนเป็นภัย และอันตรายทั้งต่อ
ชีวิต ทั้งกาย จิต และวิญญาณ
รวมทั้งทรัพย์สิน งานการอาชีพ และ พันธกิจที่เรารับผิดชอบอยู่
ดังนั้น จงหลีกห่างพวกเขา แต่หากทำไม่ได้ ก็
จงเตรียมตัวรับมือ และจัดการกับคนพวกนี้ ให้ดี
โดยพึ่ง
1.พระคุณ และ
2.พระปัญญา ของพระเจ้า

แต่ขอให้คุณหยุดคิดและสำรวจตัวเองสักนิดว่า
ตัวคุณเองเป็นหนึ่งในคนเป็นพิษ(a Toxic Person)ด้วยหรือไม่?

…จะดีไหม?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
20เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 20, 202410:58
Ep.19 อย่าเครียดจนกระวนกระวายเกินควร

Ep.19 อย่าเครียดจนกระวนกระวายเกินควร

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(19)

อย่าเครียดจนกระวนกระวายเกินควร!

”มีใครในพวกท่านโดยความกระวนกระวาย
สามารถต่ออายุของตนให้ยืนนานอีกนิดหนึ่งได้?“
‭‭ ~ลูกา‬ ‭12‬:‭25‬ ‭THSV11‬‬
”Who of you by worrying
can add a single hour to your life?“
‭‭ ~Luke‬ ‭12‬:‭25‬ ‭NIV‬‬

คำว่า “เครียด” มีหลายความหมาย เช่น
ความเครียด (Stress) หมายถึง
“ภาวะของอารมณ์ ความรู้สึก ที่ถูกบีบคั้น หรือกดดัน จนอาจเกิดความวิตกกังวล
หรือ ความกระวนกระวาย
ทำให้นอนไม่หลับ ปวดหัว ซึมเศร้า บางคนอาจมีอาการประสาทหลอนได้ หรือเส้นโลหิตในสมองตีบตัน หรือแตกได้“
ซึ่งหากความเครียดนั้น หาทางระบายออกไม่ได้ และสะสมไว้มาก
ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
จนอาจเปลี่ยนเป็น“โรคซึมเศร้า” (Depressive disorder)
หรือ“โรควิตกกังวล ”(Anxiety disorders)
คนที่ไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ ความเครียดนั้นอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้ง
1).ของตนเองและ
2).ของผู้อื่น
บางครั้ง หากจำเป็นก็ควรพบจิตแพทย์(โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นผู้เชื่อ)
เพื่อรับการปรึกษาและรักษาอย่างถูกวิธี

จริงๆแล้ว
# “ความเครียด ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา
แต่ การตอบสนองของเราต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอย่างไม่เหมาะสมต่างหาก
ที่เป็นตัวก่อให้เกิดความเครียดขึ้น!”

แล้วถ้าเราเกิดเครียดขึ้นมา จะมีแนวทางอะไรในการจัดการกับความเครียดเหล่านั้น? ต่อไปนี้ คือ แนวทาง/วิธีรับมือกับความเครียด

1.สังเกตตนเอง
1).เรากำลังหัวร้อนกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่หรือไม่?
2).หัวใจเราเต้นเร็วไปไหม?
3).อารมณ์เราเหวี่ยงวีนมากผิดปกติหรือเปล่า?
4).เรารับประทานข้าวได้น้อยลงไหม?
5).เราขับถ่ายยากขึ้นหรือไม่?
6).เราชักนอนไม่หลับอยู่บ่อยขึ้นหรือไม่?
หากมีอาการเช่นนั้นแสดงออกมานี่ก็คือสัญญาณ ที่บอกว่าเรากำลัง
“มีความเครียด”
ถ้าเราจับสังเกตว่าเครียดได้เร็ว เราก็สามารถผ่อนคลายความเครียดได้เร็วเช่นกัน!

2.สงบจิตสงบใจ(ผ่อนคลายจิตใจ)
1).เราควรฝึกควบคุมลมหายใจเข้า~ออก
ก.หายใจช้าลง แต่ลึกขึ้น
ข.หายใจรับออกซิเจนแบบมีคุณภาพ จะทำให้
ใจเย็นลง และสมองปลอดโปร่ง
2).เราควรมีวินัยในการอธิษฐานวางใจพระเจ้า จะทำให้
ก.สมองปลอดโปร่ง มีสติในการรับมือและคิดแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น
ข.ใจมีสันติสุข ทำให้ความเครียดลดลงได้ตามลำดับ

3.สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย
1).ที่บ้าน ~ ให้เราเปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ ขณะทำงาน
แต่งโต๊ะด้วยโทนที่สร้างความเย็นตา เย็นใจ และผ่อนคลายความเครียด
2).ที่ทำงาน ~ให้เราจัดโต๊ะ มีต้นไม้เล็กๆ หรือมุมส่วนตัวให้เป็นโซนผ่อนคลายสำหรับเรา
3).ที่อื่น ~ให้เราหาร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ต่าง ๆ ที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย พักใจให้สงบ

4. สนุกกับการทำกิจกรรมที่ชอบ
~ ลองหาเวลาทำกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่น เช่น ดูหนัง ดูซีรีย์ดีๆ ฟังเพลง ออกกำลังกาย
เล่นเกมเบาๆ ทานอาหารในร้านที่บรรยากาศดี ๆ
อ่านหนังสือเพื่อผ่อนคลาย สิ่งเหล่านี้ จะสามารถช่วยลดความเครียดได้ดี

5.เสาะหาสาเหตุเพื่อแก้ไข
~ให้เราหาทางออกจากความทุกข์ได้ โดยหาให้เจอก่อนว่าอะไรทำให้เราเครียด?
1.มาจากงาน ทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และภาระงานหรือ?
ถ้าใช่ ก็ให้ลองปรึกษาหารือกับผู้บริหารองค์กร ในการ
ก.ปรับเปลี่ยน หรือ
ข.โยกย้ายเราไปที่อื่น ก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
2.มาจากครอบครัว หรือ?
ถ้าใช่ ก็ควรพากันไปหา
~ศิษยาภิบาล
~นักจิตวิทยา หรือ
~ผู้เชี่ยวชาญทางการบำบัดครอบครัว เพื่อหาทางออกจากความเครียดร่วมกัน
3.มาจากเรื่องเงิน หรือ?
ถ้าใช่ ก็ควรรีบขอรับการปรึกษา จาก
~ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน หรือ
~ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อวางแผนชีวิตของเรา
6.ส่งเสริมพัฒนาตัวเอง
ให้เราเรียนรู้ และหาประสบการณ์ ในการพัฒนาตนเอง ที่จะทำให้
1).เราเติบโตทางสติปัญญา
2).เราพักรบจากศึกต่าง ๆ ที่ทำให้เราเครียด
3).เราได้ผ่อนคลายด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศ
4).เราเกิดไอเดียใหม่ ๆ ในการรับมือกับปัญหาที่เข้ามา
ก.มีแนวทาง
ข.มีการวางแผนชีวิตที่สร้างสรรค์มากขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดลงไปได้มาก

7.สามารถมองโลกในเชิงบวก
ต่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกร้ายกับเรา เราก็ไม่ควรซ้ำเติมด้วยการใจร้ายต่อตัวเราเอง
นักจิตวิทยาแนะนำว่า การมองโลกบวก หรือการหามุมที่ดีของเหตุการณ์ต่าง ๆ
เป็นการแสดงความใจดีกับตัวเองรูปแบบหนึ่ง เพราะทำให้เรา
1).ยังสามารถรู้สึกดี
2).มีความหวัง ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับเราขึ้น
3).ช่วยให้เรา
ก.มีกำลังใจ และ
ข.มีแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาในชีวิต
ซึ่งสามารถ ทำให้ความเครียดที่มีอยู่ทุเลาลงไปได้มาก

8.สามัคคีธรรมกับพี่น้อง
ให้เราหากลุ่มสามัคคีธรรมที่เราสามารถเปิดใจ แบ่งปันเล่าความเครียดให้กันและกันฟังได้
เพราะ
1).ปัญหาที่หนักอก สามารถเบาลงได้เพียงแค่เราเปิดใจเล่าให้คนที่เราสนิทใจฟัง
ถึงแม้ว่า ผู้ที่รับฟังไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ในขณะนั้น แต่
2).การแบ่งปันเรื่องราวให้คนที่ไว้ใจฟัง และมีคนรับฟังอย่างตั้งใจ จะทำให้เรารู้สึกว่า
มีคนเข้าใจ และมีความรู้สึกร่วมไปกับเรา

9.แสวงหาการรักษา และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาและจิตวิญญาณ 10.สนิทติดพระเจ้า
Apr 18, 202413:29
Ep.933 สุดใจ

Ep.933 สุดใจ

พระธรรมนำชีวิต
ตอน สุดใจ Ep.933

สิ่งที่โมเสสพูดกับคนเผ่ารูเบนและเผ่ากาด เพราะพวกเขามาขอที่ดินที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการบั่นทอนกำลังใจคนที่เหลือที่ต้องเดินทางต่อไป ต้องไปยึดครองแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาจะให้ โมเสสได้เล่าเหตุการณ์ในอดึตที่พวกเขาอาจจะลืมไปว่าบรรพบุรุษของพวกเขาก็ทำเช่นนี้ ในวันที่พระเจ้าส่งพวกเขาเข้าไปสอดแนมในดินแดนนั้น บรรพบุรุษของพวกเขาก็ทำให้คนอิสราเอลท้อใจ จึงไม่ยอมเข้าสู่ดินแดนที่พระเจ้าประทานให้ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าโกรธและทรงปฏิญาณว่า

”‘จะไม่มีสักคนที่ออกจากอียิปต์ซึ่งมีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปจะได้เห็นแผ่นดินที่เราปฏิญาณว่าจะมอบให้อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เพราะเขาทั้งหลายไม่ได้ติดตามเราอย่างสุดใจ“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬

หากเราจะติดตามพระเจ้า เราต้องให้พระเจ้าทั้งหมด พระเจ้าตรัสว่า จะไม่มีสักคนที่ออกจากอียิปต์ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปจะได้เห็นแผ่นดินนั้น เพราะพวกเขาทั้งหลายไม่ได้ติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ

”ยกเว้นคาเลบบุตรเยฟุนเนห์คนเคนัส และโยชูวาบุตรนูน เพราะว่าเขาทั้งสองติดตามพระยาห์เวห์อย่างสุดใจ’“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭12‬ ‭THSV11‬‬

มีเพียง 2 คนใน 12 คนที่ยืนยันว่าพระเจ้าประทานแผ่นดินนั้นให้ โยชูวาและคาเลบติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ ต่อจากนั้นโมเสสบอกต่อว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโกรธคนอิสราเอล และทำให้เขาเหล่านั้นต้องเดินวนในถิ่นทุรกันดารตลอด 40 ปี เพราะพวกเขาไปสอดแนม 40 วัน

”แต่นี่พวกท่านเชื้อไม่ทิ้งแถว เดินตามรอยบรรพบุรุษ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งขึ้น หากพวกท่านหันไปจากการติดตามพระเจ้า พระองค์จะทรงปล่อยประชากรทั้งหมดนี้ไว้ในถิ่นกันดารอีก ท่านย่อมจะเป็นต้นเหตุของความย่อยยับของเหล่าประชากร”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭32‬:‭14‬-‭15‬ ‭TNCV‬‬

วันนี้พระเยซูทรงเปลี่ยนพันธุกรรมเราใหม่แล้ว ให้มาเป็นลูกของพระเจ้าโดยการเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ผู้สละพระองค์เองมาเป็นมนุษย์เพื่อตายเพราะบาปของเรา และวันที่ 3 พระเยซูทรงฟื้นขึ้นกลับมีชีวิต และยังทรงพระชนม์อยู่ หากเราเชื่อแบบนี้ วันนี้เราถูกตัดออกจากพฤติกรรมเดิมๆเรียบร้อยแล้ว ขอให้เราแสวงหารอคอยพระเจ้าด้วยสุดใจ ในความเห็นของผม บางครั้งที่เราเองต้องวนอยู่กับบางอย่างที่เราไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นความขัดสน ความเจ็บป่วย ฯลฯ เพราะเราเป็นพวกเชื้อไม่ทิ้งแถวหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่า เรายังดื้อไม่ยอมเชื่อฟัง ไม่ยอมให้พระเจ้าแบบสุดใจหรือเปล่า

”พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า แล้วเจ้าจะทูลขอต่อเรา และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า เจ้าจะแสวงหาเราและพบเราเมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วย สิ้นสุดใจของเจ้า พระเจ้าตรัสว่า เราจะให้เจ้าพบเรา และเราจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดีและรวบรวมเจ้ามาจาก บรรดาประชาชาติและจากทุกที่ที่เราขับไล่เจ้าให้ไปอยู่นั้น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ และเราจะนำเจ้ากลับมายังที่ซึ่งเรา เนรเทศเจ้าให้จากไปนั้น“
‭‭เยเรมีย์‬ ‭29‬:‭11‬-‭14‬ ‭TH1971‬‬

ในทุกเรื่องของชีวิตของเราพระเจ้ามีสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ในเวลาที่เรากำลังวนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร พระเจ้าจะประทานความหวังและสันติสุขให้เรา หากเรายอมกลับใจ ยอมแสวงหารอคอยพระเจ้าด้วยสุดใจ พระเจ้าจะนำเราทั้งหลายที่แสวงหาและรอคอยพระเจ้าอย่างสุดใจ กลับสู่สภาพดี
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 17, 202409:56
Ep.18 เครียด!

Ep.18 เครียด!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(18)

เครียด!

”ความทุกข์ยากและความตรอมตรมได้มาสู่ข้าพระองค์
แต่พระบัญญัติของพระองค์เป็นความปีติยินดีของข้าพระองค์“
‭‭ ~สดุดี‬ ‭119‬:‭143‬ ‭THSV11‬‬
”Stress and strain have caught up with me,
but your commandments are my joy!“
‭‭ ~Psalms‬ ‭119‬:‭143‬ ‭CEB‬‬


“เครียด” หมายความถึง
“อาการที่สมองไม่ได้ผ่อนคลาย เพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป”
เช่น หน้าเครียด อารมณ์เครียด
ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า “stressed” หมายความว่า
”มีประสบการณ์กับความเครียด หรือ ความตึงเครียดทางด้านความคิด และ อารมณ์ความรู้สึก“
(experiencing mental or emotional strain or tension.)

เราต้องตื่นตัว และ ตรวจดูว่า
เวลานี้ เรากำลังถูกความเครียดจู่โจมเข้าแล้วหรือยัง?
แล้วเราจะสังเกตได้อย่างไรว่า เราถูกความเครียดโจมตีเรา แล้วหรือไม่?

ต่อไปนี้ เป็นอาการที่บ่งบอกว่า ความเครียดกำลังจู่โจมเราแล้ว?

“จงระวัง ความเครียด มาถามหา
แล้วหน้าตา ความเครียด เป็นไฉน?
สัญญาณเตือน ตื่นตัว คืออะไร?
มาใส่ใจ เฝ้าดู กันดีกว่า

ผิดปกติ ป่วยง่าย ทั้งจิตกาย
เกิดเสียหาย ระบบ ทางอาหาร
ทั้งท้องผูก ท้องร่วง จนลนลาน
เครียดเบื่องาน อยากไกล ห่างสังคม

สายตาเบลอ ปวดเมื่อย คอและบ่า
สมองล้า เรื้อรัง หลับไม่ได้
ปวดศีรษะ ขาดแรง บันดาลใจ
ความคิดใหม่ หายไป หาไม่เจอ

ตัดสินใจ ไม่ได้ ลังเลนัก
บ่อยครั้งมัก ตัดสิน ผิดพลาดใหญ่
หงุดหงิดง่าย รับมือ ไม่ค่อยไหว
จำอะไร ไม่ได้ แย่จัดการ

เครียดเมื่อใด ใจตก ลงเมื่อนั้น
กลัวหวาดหวั่น กังวล จิตอ่อนแอ
นั่งไม่ติด อารมณ์ พลันปรวนแปร
ยากเอาแน่ ก้าวร้าว อันตราย

ความดันสูง พุ่งขึ้น น่าใจหาย
โศกได้ง่าย กลับกลาย เป็นซึมเศร้า
อดทนลด พร้อมโต้ ทั้งหนักเบา
ชอบคาดเดา แง่ร้าย เบื่อง่ายดาย!“

ปกติ ความเครียด มักเกิดจาก 2 ปัจจัยใหญ่ๆ นั่นคือ

1.ปัจจัยภายนอก เช่น
1).งาน หรือ พันธกิจรับใช้ ~
ก.มีปัญหากับเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน
ข.ได้รับผลตอบแทนไม่เพียงพอ หรือไม่เหมาะสม
ค.รายละเอียดของงาน และพันธกิจ
ง.งานหรือพันธกิจแข่งกับเวลาหรือเกี่ยวข้องกับความเป็น ความตาย
2).สุขภาพ~
ก.เจ็บป่วยบางอย่างในร่างกาย เช่น ท้องเสีย ปวดหัว หรือไม่สบาย
ข.มีปัญหาในการนอน คือวงจรการนอนเปลี่ยนแปลง
จากการศึกษาพบว่า คนที่เข้างานเป็นกะ ไม่ค่อยได้นอน เข้างานเช้าบ้าง บ่ายบ้าง ดึกบ้าง
มีความเครียดสูงกว่าคนทั่วไป ส่งผลทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ค่อยดี
รู้สึกเหนื่อย เพลียง่าย อ่อนแรง อารมณ์หงุดหงิดหรือซึมเศร้า
3).เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ~
ก.มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ข.แข่งขันหนักทั้งเรื่องการเรียน การทำงามน
ค.มีปัญหาด้านการเงิน และมีภาระหนี้สินมาก
ง.มีความคิดขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมือง
4).ครอบครัว ~
ก.การแต่งงาน-นำการเปลี่ยนแปลงขัดแย้งมาสู่ชีวิต
ข.คู่สมรสเสียชีวิต
ค.หย่าร้างกับคู่ครอง
ง.คนในบ้านเจ็บป่วย จนต้องออกจากงานหรือ เปลี่ยนงาน
5).ความขัดแย้งในความสัมพันธ์ ~
ก.มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ กับ
ก).คนในบ้านและครอบครัว
ข).คนในโบสถ์
ค).คนนอกโบสถ์
ข.ทะเลาะกับแฟน พี่น้อง หรือ กับเพื่อน

2.ปัจจัยภายใน เช่น
1).มีนิสัยคิดมาก ชอบวิตกกังวลแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อย
2).มีสารเคมีในสมองไม่สมดุล ทำให้เกิดอารมณ์เครียดและเศร้าง่าย
3).เจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัวแบบเรื้อรัง ยาวนาน
4).เกิดพัฒนาการที่นำการเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัย

วันนี้ คุณกำลังเครียดอยู่หรือไม่?
รู้หรือไม่ว่า มีอะไร เป็นสาเหตุ?
แล้วคุณจะรับมืออย่างไร?

1.บางครั้ง ความเครียดเกิดขึ้นเพราะว่าเราคิดมากเกินไป
หรือ มากกว่าที่ควรคิด
2.บางครั้ง ความเครียด เกิดขึ้น เพราะเราคิดว่าทุกเรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องเร่งด่วนไปเสียทั้งหมด!
3.บางครั้ง การเครียดเกิดขึ้น เพราะ เราต้องการรู้ เข้าใจ แก้ไข หรือ จัดการทุกอย่างให้ได้เพียงในครั้งเดียว ซึ่งผิดธรรมชาติ!”

ด้วยเหตุนี้

”การคิดมากเกินไป มักสร้างปัญหาที่ไม่ได้มีอยู่ ณ ที่นั้น ให้เกิดขึ้นมา!“

ผู้เขียน พระธรรมสดุดี กล่าวว่าท่านชื่นชมยินดีได้เสมอ
ด้วยพระวจนะหรือ พระบัญชาของพระเจ้า

”แม้ความทุกข์และความโศกเศร้า(และความเครียด)
ถาโถมเข้าใส่ข้าพระองค์
แต่พระบัญชาของพระองค์ทำให้ข้าพระองค์ปีติยินดี“
‭‭ ~สดุดี‬ ‭119‬:‭143‬ ‭TNCV‬‬

พี่น้องที่รัก
หากว่า วันนี้ คุณกำลังเครียด เพราะแบกภาระหนักเกินจะรับไหว
จงฟัง และกระทำตามพระบัญชาของพระเยซูคริสต์ ดังต่อไปนี้
แล้วเรา จะผ่อนคลายหมดความเครียด

”บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านพักสงบ จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนรู้จากเรา
เพราะเราสุภาพและถ่อมใจ แล้วจิตวิญญาณของท่านจะพักสงบ
เพราะแอกของเรานั้นพอเหมาะและภาระของเราก็เบา”“
‭‭ ~มัทธิว‬ ‭11‬:‭28‬-‭30‬ ‭TNCV‬‬

…อาเมนไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
18เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี






Apr 17, 202411:38
Ep.17 จงมุ่งทำดีอย่างมีคุณค่า!

Ep.17 จงมุ่งทำดีอย่างมีคุณค่า!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(17)

จงมุ่งทำดีอย่างมีคุณค่า!

”คำกล่าวนี้สัตย์จริง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านเน้นเรื่องเหล่านี้
เพื่อพวกที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้มุ่งทำการดี
การกระทำเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์กับทุกคน“
‭‭ ~ทิตัส‬ ‭3‬:‭8‬ ‭THSV11‬‬
”This is a trustworthy saying.
And I want you to stress these things, so that those who have trusted in God may be careful to devote themselves to doing what is good. These things are excellent and profitable for everyone.“
‭‭ ~Titus‬ ‭3‬:‭8‬ ‭NIV‬‬

รอย ที เบนเน็ท กล่าวว่า

“จงทำดี
และดำเนินชีวิตในวิถีบวกและชื่นชมยินดีมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ในทุกๆวัน!”
“Do good,
live in the most positive and joyful way possible every day.”
― Roy T. Bennett, The Light in the Heart

ใช่ครับ เราควรทำดี!

เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด!
แต่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดเพื่ออะไร?
เราควรจะรู้ว่า แม้ว่าการทำดี ไม่ได้ช่วยให้เรารอด
แต่ก็ชัดเจนว่า พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด เพื่อที่เราจะทำดี แบบที่
1.ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และ
2.เป็นประโยชน์แก่ทุกคน

อาจารย์เปาโลกล่าวกับทิตัสอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ว่า

”1.พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด เมื่อ
1).ความดีเลิศ และ
2).ความรักของพระเจ้า
พระผู้ช่วยให้รอดของเรามาปรากฏ

2.เราไม่ได้รอดเพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง
แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการ
1).ชำระให้บังเกิดใหม่ และ
2).สร้างใหม่ ของพระวิญญาณบริสุทธิ์

3.พระเจ้าประทานพระวิญญาณองค์นี้ให้แก่เราอย่างบริบูรณ์
ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
เพื่อว่าเมื่อ
1).เราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว
2).เราก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้คือชีวิตนิรันดร์

4.อาจารย์เปาโล ปรารถนาให้เน้นคำกล่าวสัตย์จริงเหล่านี้
เพื่อพวกที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้มุ่งทำการดี
1).ที่ดี และ
2).เป็นประโยชน์กับทุกคน

5.อาจารย์เปาโล กำชับให้หลีกเลี่ยงจาก
1).การทุ่มเถียงที่โง่เขลา
2).การลำดับวงศ์ตระกูล
3).การวิวาทและ
4).การทะเลาะกันเรื่องธรรมบัญญัติ
เพราะว่าสิ่งเหล่านั้น
ก.ไร้ประโยชน์และ
ข.ไร้คุณค่า

6.อาจารย์ เปาโล เตือนว่า
1).จงเตือนคนที่สร้างความแตกแยกแค่หนึ่งหรือสองครั้ง แล้ว
2).จงอย่าเกี่ยวข้องกับเขาอีก
เพราะรู้แล้วว่า
ก.คนอย่างนั้น
ก).เป็นคนนอกลู่นอกทาง และ
ข).เป็นคนทำบาป
ข.เขาลงโทษตัวเขาเอง“
‭‭ ~ทิตัส‬ ‭3‬:‭4‬-‭11‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก
อะไรไม่ดี อย่าไปทำ!
มีอะไรบ้างที่เข้าข่าย สิ่งไม่ดี ที่เราไม่ควรทำ
อาจารย์เปาโล ยกตัวอย่างให้เห็นแล้ว อาทิ

1).การทุ่มเถียงที่โง่เขลา
2).การลำดับวงศ์ตระกูลที่ไร้แก่นสาร
3).การวิวาทกันที่สร้างความเสียหาย
4).การทะเลาะกันเรื่องธรรมบัญญัติที่สร้างปัญหา
5).การสร้างความแตกแยกที่สร้างความเจ็บปวด
…เพราะว่าการทำสิ่งเหล่านั้นล้วน
ก.ไร้ประโยชน์ และ
ข.ไร้คุณค่า

วันนี้ คุณคิดถึง ความดีอะไรบ้างที่คุณควรทำ ใน
1.ครอบครัว
2.คริสตจักร
3.ที่ทำงานหรือ ที่สถานศึกษา
4.ชุมนุมชนที่คุณอยู่?
แล้วคุณ จะลงมือทำเมื่อไร?อย่างไร?และกับใคร?

คุณเห็นด้วยกับที่ Richelle E. Goodrich กล่าวไว้หรือไม่ว่า

“ ทุกๆวัน เปิดโอกาสให้แก่เราในการที่จะทำดี
จงฉวยโอกาสเหล่านั้น คือ
จงทำดี และจงมีความสุข!“
(Every day grants us opportunities to do good.
Take advantage of them. Do good. Be happy.)

พี่น้องที่รัก
ถ้าคุณเห็นด้วยกับสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น
ก็จงอย่าลังเล
รีบลงมือทำดีได้เลย
…เห็นด้วยไหมครับ!

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
17เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

Apr 16, 202410:10
Ep.16 คนพันธุ์ใหม่ ควรทำอย่างนี้ !

Ep.16 คนพันธุ์ใหม่ ควรทำอย่างนี้ !

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(16)

คนพันธุ์ใหม่ ควรทำอย่างนี้ !

”ท่านทั้งหลายได้บังเกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่จากเมล็ดพันธุ์ที่เสื่อมสลายได้
แต่จากเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เสื่อมสลาย คือ
จากพระวจนะของพระเจ้าที่มีชีวิตและดำรงอยู่“
~‭‭1 เปโตร‬ ‭1‬:‭23‬ ‭THSV11‬‬
”Do this because you have been given new birth—
not from the type of seed that decays but from seed that doesn’t.
This seed is God’s life-giving and enduring word.“
‭‭ ~1 Peter‬ ‭1‬:‭23‬ ‭CEB‬‬

อาจารย์ เปโตร เตือนสติผู้ที่เชื่อในพระคริสต์ และบังเกิดใหม่แล้ว
จากพระวจนะของพระเจ้าที่มีชีวิต และดำรงอยู่เป็นนิตย์
1.ให้ดำเนินชีวิต และ
2.ให้ประพฤติตัว
ให้สมกับที่เป็นคนพันธุ์ใหม่ ดังนี้

“เพราะฉะนั้น
1.จงเตรียมตัวเตรียมใจของพวกท่านไว้ให้ดี
2.จงรู้จักควบคุมตัวเอง
3.จงตั้งความหวังทั้งหมดไปที่พระคุณ
ซึ่งจะประทานแก่พวกท่าน ในเวลาที่พระเยซูคริสต์เสด็จมาปรากฏ
4.จงเป็นบุตรที่เชื่อฟัง
5.อย่าประพฤติตามกิเลสตัณหา อันเกิดจากความโง่เขลาของพวกท่านในอดีต
6.จงเป็นคนบริสุทธิ์ในชีวิตทุกด้าน เหมือนพระองค์ผู้ทรงเรียกเรานั้นบริสุทธิ์
เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า
“พวกท่านจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเองบริสุทธิ์”
7. จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้
ถ้าพวกท่าน
1).ร้องเรียกพระองค์ว่าพระบิดาผู้ทรงพิพากษาอย่างไม่มีอคติตามการกระทำของแต่ละคน
2).รู้ว่าพวกท่านได้รับการไถ่ออกจากการดำเนินชีวิตที่ไร้สาระ ซึ่งตกทอดมาจาก บรรพบุรุษ
ของพวกท่าน
ก.ไม่ใช่ไถ่ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้เช่นเงินหรือทอง
ข.แต่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ไร้ตำหนิและไร้จุดด่างพร้อย
ก).พระคริสต์ทรงถูกกำหนดไว้ก่อนทรงสร้างโลก แต่
ข).ทรงปรากฏพระองค์ในวาระสุดท้ายนี้ เพื่อพวกท่าน
8.จงวางใจในพระเจ้า ผู้ทรง
1).ให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และ
2).ประทานพระสิริแก่พระองค์
เพื่อให้ความเชื่อและความหวังของพวกท่านอยู่ในพระเจ้า
9.จงรับการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วด้วยการเชื่อฟังความจริง(จนมีใจรักพี่น้องอย่างจริงใจ)
10.จงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง “

อาจารย์ เปโตร ยังกำชับปิดท้ายว่า

“1.ท่านทั้งหลายได้บังเกิดใหม่แล้ว
1).ไม่ใช่จากเมล็ดพันธุ์ที่เสื่อมสลายได้
2).แต่จากเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เสื่อมสลาย คือจาก
พระวจนะของพระเจ้าที่มีชีวิตและดำรงอยู่
เพราะว่า
2.มนุษย์ทุกคน เป็นเหมือนต้นหญ้า
1).ศักดิ์ศรีทั้งสิ้นของเขาก็เป็นเหมือนดอกหญ้า
2).ต้นหญ้าเหี่ยวแห้ง และ
3).ดอกก็ร่วงโรยไป แต่
3.พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์”
4.พระวจนะนี้คือข่าวประเสริฐที่ได้ประกาศให้พวกท่านทราบแล้ว“
~‭‭1 เปโตร‬ ‭1‬:‭13‬-‭25‬ ‭THSV11‬‬

ใช่ครับ พระวจนะของพระเจ้านั้น ล้ำค่ายิ่งนัก
มีคุณค่าและคุณประโยชน์ ทั้งต่อ
1.ผู้ที่ยังไม่เชื่อ ~ให้ได้ฟังหรืออ่าน แล้วกลับใจ
เชื่อในพระคริสต์ และรับความรอด
2.ผู้ที่เชื่อใหม่~ให้ได้เรียนรู้แล้วหล่อเลี้ยงชีวิตจิตวิญญาณ
3.ผู้เชื่อเดิม~ให้ได้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ฝ่ายวิญญาณ
4.ผู้ที่เป็นผู้นำ~ให้ได้เข้มแข็งและแกร่งขึ้นในการดำเนิน
ชีวิต การรับใช้ และการนำผู้อื่น

เหมือนดังที่ Colin S. Smith กล่าวว่า

“พระวจนะของพระเจ้า คือ เมล็ดที่มีชีวิตซึ่งนำการ
บังเกิดใหม่มาให้
คือน้ำนมที่หล่อเลี้ยงชีวิตใหม่ของคริสเตียนหนุ่มสาว
คือเนื้อที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับผู้เชื่อที่เป็นผู้ใหญ่!“
(God’s Word is the living seed that brings new
birth. It is the milk that nurtures the new life of
a young Christian and the meat that builds the
muscle of a mature believer.)

ดังนั้น พี่น้องที่รัก
ขอให้เรา มาเป็นคนพันธุ์ใหม่จากสวรรค์ที่เกิดจากพระวจนะของพระเจ้า อันเป็น
เมล็ดพันธุ์ที่มีชีวิต ยั่งยืน และ ดำรงอยู่เป็นนิตย์ เพื่อเป็นพรแก่ทุกคนในโลกชั่วคราวนี้

…จะดีไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
16เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 15, 202410:49
Ep.931 ดีชัวร์

Ep.931 ดีชัวร์

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ดีชัวร์ Ep.931

มนุษย์อย่างเรามีความผิดพลาดมากมาย แต่พระเจ้าไม่เคยผิดพลาด พระเจ้ามีกำหนดการและเวลาของพระองค์เสมอ สิ่งที่เราต้องทำคือการยอมรับกำหนดการนั้น ยอมรับน้ำพระทัยของพระเจ้าในทุกเรื่อง แล้วชีวิตของเราดีชัวว์ๆ

”อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์“ ฟีลิปปี‬ ‭4‬:‭6‬-‭7‬ ‭

เรื่องราวความผิดพลาดของผมกัยทีมคือเรื่องค่ายเด็ก ตอนที่เราคุยกันลงตารางในปฎิทินส่วนตัวพร้อมกันแต่ลงคนละวัน เมื่อเห็นโปสเตอร์ที่ออกมาจึงรู้ว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น แต่วันของผมกับอาจารย์อิม ปฐมพงษ์ไม่ตรงกับคนอื่น ของผม 9-11 แต่ของทีมคือ 11-13 ถึงตรงนี้ก็ถามว่าเอายังไง ผมก็ตัดสินใจว่าตามผู้นำเสนอโครงการคือสุทธิกับแคท ถ้าเป็นปกติผมจะไม่ยอม ทุกอย่างต้องตามตาราง เพราะ 13 เป็นวันหยุดแล้ว อาจจะไม่มีเด็กมา แต่เมื่อผมทำตามตารางของทีม ครั้งแรกผมก็ยังไม่เห็นความยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าไม่เคยพลาด พระเจ้าได้มีกำหนดการล่วงหน้าไว้ทั้งหมดแล้ว พระองค์ทรงทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอเล่าย้อนไปอีกนิดเพื่อเป็นพยานถึงงานของพระเจ้าที่พระเจ้าไม่เคยผิดพลาดและพระองค์อัศจรรย์ ย้อนไปวันที่ 1 ระหว่างผมเดินทางไปขอนแก่นได้รับแจ้งว่าคุณอาสะใภ้ภรรยาของ อ.วินิจ เสียชีวิต และจะจัดงานฌาปนกิจเลยในวันถัดมา แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าที่ผมจะได้มีโอกาสในพิธีระลึกถึงในวันจันทร์ถัดมาคือวันที่ 8 ระหว่างการเดินทางจากฉะเชิงเทราเข้าไป คจ.อิมมานูเอล ก็ได้รับแจ้งว่าหลานของคุณแม่ที่อยุธยาเสียชีวิต จะฌาปนกิจในวันที่ 10 คือวันพุธ ปกติผมจะเป็นคนที่อาหารกลางวัน Lunch รั้น ถ้าตะแบงเอาตามตารางที่วางไว้ด้วยเหตุผลมากมายในสมองถ้าทำตามเดิม วันที่ 10 คงจะเป็นอีกวันที่อึดอัดและยากในการจัดการมากกว่านี้เยอะ

”เลิก​กังวล​ได้​แล้ว แต่​ให้​อธิษฐาน​ใน​ทุกๆ​สถานการณ์ และ​ขอ​ใน​สิ่ง​ที่​คุณ​ต้องการ​จาก​พระเจ้า และ​เมื่อ​อธิษฐาน​ก็​ให้​ขอบคุณ​พระเจ้า​ด้วย แล้ว​สันติสุข​ที่​มา​จาก​พระเจ้า ซึ่ง​ดี​กว่า​สันติสุข​ที่​มา​จาก​แผน​งาน​ต่างๆ​ของ​มนุษย์ จะ​ปกป้อง​รักษา​จิตใจ และ​ความคิด​ของ​คุณ​ไว้​ใน​พระเยซู​คริสต์“
‭‭ฟีลิปปี‬ ‭4‬:‭6‬-‭7‬ ‭THA-ERV‬‬

ขอเอาฉบับอ่านเข้าใจง่ายมาให้กำลังพวกเราอีกครั้งว่า เลิก​กังวล​ได้​แล้ว แต่​ให้​เราอธิษฐาน​ใน​ทุกสิ่ง ทุกสถานการณ์ ให้เราขอในทุกความต้องการ​จาก​พระเจ้า เมื่อ​อธิษฐานแล้ว​ก็​ให้​ขอบคุณ​พระเจ้า​ด้วย เพราะสันติสุข​ที่​มา​จาก​พระเจ้าจะ​ปกป้อง​รักษา​จิตใจ และ​ความคิด​ของ​เราไว้ใน​พระเยซู​ ซึ่งนั่น​ดี​กว่า​สันติสุข​ที่​มา​จาก​แผน​งาน​ต่างๆ​ของ​เราเอง แผนงานเหตุผลของเราอาจจะดีแต่ในบางเรื่องที่ผิดพลาด พระเจ้าไม่ได้พลาดไปกับเรา พระเจ้ามีกำหนดการ มีแผนงานที่วางไว้แล้ว ขอเพียงเราที่จะไม่รั้น ไม่ตะแบง เอาแต่ใจ ชีวิตเราจะปลอดภัยและดีชัวว์
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 15, 202409:39
Ep.11 เมื่อเห็นต่าง.. แล้วอยากแสดงจุดยืน คริสเตียนเค้าทำกันยังไงครับ?

Ep.11 เมื่อเห็นต่าง.. แล้วอยากแสดงจุดยืน คริสเตียนเค้าทำกันยังไงครับ?

หากเราไม่เห็นด้วยกับความเชื่อของฝั่งที่เห็นต่าง เราควรจะโพสต์แสดงจุดยืนเพื่อยืนยันความเชื่อของเราไหมครับ? แต่ส่วนใหญ่โพสต์ทีไรแตกแยกทุกที คริสเตียนเราควรทำอย่างไรดีครับ?
Apr 15, 202415:31
Ep.15 คุณเป็น seeds หรือคุณเป็น weeds?

Ep.15 คุณเป็น seeds หรือคุณเป็น weeds?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(15)

คุณเป็น Seed หรือ คุณ เป็น Weeds?

”บรรดาทาสของเจ้าบ้านจึงมาแจ้งแก่นายว่า
‘นายเจ้าข้า ท่านได้หว่านพืชดีไว้ในนาของท่านไม่ใช่หรือ?
แต่มีข้าวละมานมาจากไหน?’“
‭‭ ~มัทธิว‬ ‭13‬:‭27‬ ‭THSV11‬‬
”The man's servants came to him and said,
‘Sir, it was good seed you sowed in your field;
where did the weeds come from?’“
‭‭ ~Matthew‬ ‭13‬:‭27‬ ‭GNT‬‬

เห็นด้วยไหม กับคำกล่าวที่ว่า
“ในทุกๆเมล็ดที่ดี
มักมีบางเมล็ดที่เลวบางส่วนปะปนอยู่ด้วย!
(In every seed of good there is always a piece of bad.
~Marian Wright Edelman

ในคริสตจักร และในชุมชน(คริสเตียน) ก็เช่นกัน ทุกที่จะมีทั้ง
1.พืชดี หรือ เมล็ดพันธุ์ดี (good seed) ที่หมายถึง ผู้เชื่อแท้ที่มาจากพระเยซูคริสต์
2.ข้าวละมาน หรือ วัชพืช(weeds)ที่หมายถึง ผู้เชื่อปลอมที่มาจากมารซาตาน

พระเยซูคริสต์ อธิบายเรื่องนี้ โดยตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้พวกสาวกฟัง ดังนี้ ว่า

“แผ่นดินสวรรค์เปรียบเหมือน
1.คนหนึ่งได้หว่านเมล็ดพืชดีในนาของตน
2.(แต่เมื่อคนทั้งหลายนอนหลับอยู่)ศัตรูของคนนั้น
1).มาหว่านข้าวละมานปนกับข้าวดีนั้นไว้
2).แล้วก็หลบไป
3.ต้นข้าวนั้นงอกขึ้นออกรวงแล้ว
4.ข้าวละมานก็ขึ้นมาปรากฏด้วย
5.บรรดาทาสของเจ้าบ้านจึงมาแจ้งแก่นายว่า
‘นายเจ้าข้า ท่านได้หว่านพืชดีไว้ในนาของท่านไม่ใช่หรือ?
แต่มีข้าวละมานมาจากไหน?’
6.นายก็ตอบว่า
‘นี่เป็นการกระทำของศัตรู’
7.ทาสเหล่านั้นจึงถามว่า
‘ท่านปรารถนาจะให้เราไปถอนและเก็บข้าวละมานไหม?’
8.นายตอบว่า
‘อย่าเลย เกรงว่าเมื่อกำลังถอนข้าวละมานจะถอนข้าวดีด้วย
ให้ทั้งสองเติบโตไปด้วยกันจนถึงฤดูเกี่ยว และ
ในเวลาเกี่ยวนั้นเราจะสั่งบรรดาผู้เกี่ยวว่า
“จงเก็บข้าวละมานก่อน มัดเป็นฟ่อนเผาไฟเสีย
แต่ข้าวดีนั้นจงรวบรวมไว้ในยุ้งฉางของเรา”

…แล้วพระเยซูเสด็จไปจากฝูงชนเข้าไปในบ้าน
1.พวกสาวกมาเฝ้าพระองค์ทูลว่า
“ขอพระองค์โปรดอธิบายให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าใจอุปมาเรื่องข้าวละมานในนานั้น”
2.พระเยซูตรัสตอบว่า
“1)ผู้หว่านเมล็ดพืชดีนั้น=บุตรมนุษย์(พระเยซูคริสต์)
2).นา=โลก
3).เมล็ดพืชดี=พลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า(ผู้เชื่อแท้)
4).ข้าวละมาน=พลเมืองของมารร้าย(ผู้เชื่อปลอม)
5).ศัตรูผู้หว่านเมล็ดพืชเลว=มารนั้น
6).ฤดูเกี่ยว=เวลาสิ้นยุค
7).ผู้เกี่ยวทั้งหลาย=ทูตสวรรค์
3.พระเยซูตรัสอธิบายต่อไปว่า
1).เขาเก็บข้าวละมานเผาไฟเสียอย่างไร เมื่อเวลาสิ้นยุคก็จะเป็นอย่างนั้น
2).บุตรมนุษย์จะใช้บรรดาทูตสวรรค์ของท่าน
ก.ออกไปเก็บกวาด
ก).ทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิด
ข).พวกผู้ที่ทำชั่ว
ไปจากแผ่นดินของท่าน
ข.จะทิ้งลงในเตาไฟที่ลุกโพลง ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
3).คนชอบธรรมจะส่องแสงอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของพวกเขา
ดุจดวงอาทิตย์
4.พระเยซูตรัสปิดท้ายว่า
“ใครมีหูจงฟังเถิด!“
‭‭ (มัทธิว‬ 13:24-30,36‬-‭43‬)

พี่น้องที่รัก
ขอให้ วันนี้ เราจะสำรวจตัวเราเองว่า
1.เรามาจากไหน?
2.เรามาจากพระเจ้าหรือมาจากมาร?
1).ถ้าเรา เป็น เมล็ดพันธุ์(seed)ที่ดี มาจากพระเจ้า ก็ให้เรายืนหยัดมั่นคง ไม่หวั่นไหว แม้ว่า
ก.จะมีผู้เชื่อปลอมอยู่รอบตัวเราอยู่ในเวลานี้
ข.จะมีความทุกข์ยากลำบาก การทดลอง หรือการโจมตีเล่นงานเรา
2).ถ้าเรา เป็น วัชพืช (weeds)หรือข้าวละมานที่มาจากมาร ก็ให้เรารีบกลับใจใหม่
เชื่อพระคริสต์
ก.รับพระคุณและความรอด
ข.รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราใหม่
และกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของพระเจ้าสำหรับโลกนี้ เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ หากว่า พระเจ้าทรงแต่งตั้งให้เราเป็น
ผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่แห่งชีวิตนิรันดร์ ของพระองค์
ก็ขอให้เราจงทุ่มเทในการปลูกหว่านอย่างจริงจังด้วยความรับผิดชอบ
เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวพืชผลดีเยี่ยม มาถวายแด่พระเจ้าเมื่อถึงเวลา
เหมือนดังที่ Scott Reed กล่าวว่า

“คุณต้องให้ เพื่อจะได้รับ
คุณต้องหว่านเมล็ด ก่อนที่คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวผลิตผล!”
(You must give to get,
You must sow the seed, before you can reap the harvest.)

…จะดีไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
15เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 14, 202410:18
Ep.14 วันเบาๆเรื่องครอบครัว

Ep.14 วันเบาๆเรื่องครอบครัว


คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(14)

วันเบาๆ เรื่องครอบครัว!

”ถ้าครอบครัวใดแตกแยกกัน
ครอบครัวนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้!“
‭‭ ~มาระโก‬ ‭3‬:‭25‬ ‭THSV11‬‬
”If a family divides itself into groups which fight each other,
that family will fall apart.“
‭‭ ~Mark‬ ‭3‬:‭25‬ ‭GNT‬‬

“ครอบครัว” หมายถึง
“สถาบันพื้นฐานของสังคม ที่ประกอบด้วย
สามีภรรยาและหมายความรวมถึงลูกด้วย”

แล้วบทบาทหน้าที่ของเราแต่ละคนในครอบครัว ควรจะเป็นอย่างไร?

“พระคัมภีร์ สอนอะไร เรื่องครอบครัว?
สิ่งแรกชัวร์ พระเจ้า สถาปนา
สถาบัน ครอบครัว จึงเกิดมา
ภรรยา สามี เป็นเนื้อเดียว

ตัวสามี ต้องรัก ภรรยา
ตัวน้องยา ต้องฟัง ผู้เป็นผัว
หากไม่รัก ไม่ฟัง ต่างเจ็บตัว
ความมืดมัว ปกคลุม ความสัมพันธ์

เรื่องการรัก สามี ต้องเริ่มก่อน
จากตื่นนอน เข้านอน ต้องรักเธอ
เรื่องยอมฟัง ภรรยา อย่าเลินเล่อ
ก่อนเสนอ เป็นอื่น ฟังเขาก่อน

ทั้งสามี ภรรยา จงชื่นชม
จงสุขสม ร่วมกัน ทุกวาระ
จงเคียงคู่ เคียงข้าง แบกภาระ
จงอย่าละ ทิ้งไป ยามเข็ญใจ

ภรรยา เปราะบาง แตกหักง่าย
ทั้งใจกาย สามี ต้องถนอม
อย่าทำให้ คู่ครอง ต้องตรมตรอม
สามีพร้อม เติมรัก ให้เพิ่มพูน

สามีนั้น ทรนง ในศักดิ์ศรี
ฝ่ายสตรี จงระวัง อย่าท้าทาย
ไม่ให้เกียรติ ไม่ฟัง จะเสียหาย
บ้านทลาย วายป่วง จะโศกา

ทั้งสามี ภรรยา รีบอภัย
หากฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ทำเจ็บเศร้า
ถ้าไม่ไหว อย่างไร พึ่งพระเจ้า
อย่ามุ่งเอา อารมณ์ ตัดสินใจ

ถ้าชายใด ดูแล เมียได้ดี
เขาจะมี ความสุข ชั่วชีวี
เธอจะมอบ รางวัล แสนสุขี
ให้เปรมปรีด์ สุขสันต์ จนวันตาย

หากหญิงใด เอาใจ สามีเก่ง
การบ้านเจ๋ง สามี ใคร่รีบกลับ
ทั้งอ่อนหวาน อบอุ่น ทุกข์หายวับ
เธอจะรับ รางวัล ตราบชีพวาย

ทั้งสามี ภรรยา รักพระเจ้า
รักสองเรา ครอบครัว และลูกหลาน
รักญาติมิตร คริสตจักร และเพื่อนบ้าน
ขอบันดาล บ้านเรา ให้เป็นพร

เป็นพ่อแม่ ต้องสอน ฝึกลูกหลาน
วางรากฐาน ความเชื่อ ครบถูกต้อง
ทั้งชีวิต คัมภีร์ ล้วนสอดคล้อง
นำพี่น้อง พบพระคริสต์ รอดนิรันดร์

เป็นลูกหลาน ต้องฟัง บุพการี
เป็นการดี รู้คุณ กตัญญู
เคารพรัก พ่อแม่ พร้อมเลี้ยงดู
น้อมยกชู พระคริสต์ นิจนิรันดร์!

(ปฐมกาล‬ ‭2‬:‭18‬, ‭21‬-‭25‬; เอเฟซัส‬ ‭5‬:‭25,28‬; ปัญญาจารย์‬ ‭9‬:‭9‬ ; มาระโก‬ ‭3‬:‭25‬; สุภาษิต‬ ‭31‬:‭27‬ ; กิจการ‬ ‭10‬:‭2‬; 1 ทิโมธี‬ ‭5‬:‭8‬ ; กาลาเทีย‬ ‭6‬:‭10‬; เอเฟซัส‬ ‭6‬:‭1‬-‭4)

พี่น้องที่รัก

วันนี้ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณเป็นอย่างไร?
1.สามีภรรยา อยู่กินด้วยกัน อย่างมีความสุขดีไหม?
2.พ่อแม่ลููก อยู่ด้วยกัน อย่างชื่นบานหรือไม่?
3.เหล่าพี่น้อง ญาติมิตร และคนที่อยู่ร่วมกันในบ้าน ต่างมีความสมานฉันท์กลมเกลียวกันดีอยู่หรือไม่?

ขอให้เรามาร่วมกันทำให้ทุกสัมพันธภาพที่เรามีต่อคนในครอบครัวทุกคนจะ
1.มีความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวที่ไร้ความแตกแยก และ
2.มีความสุขเต็มเปี่ยม อย่างยั่งยืน
จากการอวยพระพรของพระเจ้าเบื้องบน
…จะดีไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
14เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี


Apr 13, 202410:11
Ep.930 มีอะไรไว้เป็นอนุสรณ์

Ep.930 มีอะไรไว้เป็นอนุสรณ์

พระธรรมนำชีวิต
ตอน มีอะไรไว้เป็นอนุสรณ์หรือยัง Ep.930

ความอัศจรรย์ของพระเจ้าเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเราเสมอ ขอเราอย่าเคยชินกับเรื่องนั้นๆ จนเราไม่ตื่นเต้นไม่ยินดีที่จะขอบพระคุณพระเจ้ากับทุกการงาน ทุกความช่วยเหลือและทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำต่อเราอย่างอัศจรรย์

”จากนั้นเหล่าแม่ทัพนายกองซึ่งบัญชาการพลรบต่างๆ มาพบโมเสส และเรียนว่า “พวกข้าพเจ้าได้ตรวจนับคนที่ออกรบ ไม่มีล้มหายตายจากไปแม้แต่คนเดียว“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭48‬-‭49‬ ‭TNCV‬‬

หลังจากการแบ่งสรรปันส่วนแกทุกคนตามน้ำพระทัยพระเจ้าแล้ว ทหารก็มารายงานสิ่งที่อัศจรรย์มากสำหรับการรบในสายตาของผม คือทหารที่ไปรบนั้นไม่มีใครตายสักคนเดียว ผมจึงคิดถึง

”แม้ข้าพระองค์เดิน ผ่านหุบเขาเงาแห่งความตาย ข้าพระองค์จะไม่หวาดกลัวความชั่วร้ายใดๆ เพราะพระองค์สถิตกับข้าพระองค์ พระองค์ทรงปกป้องและนำทางข้าพระองค์ ทำให้ข้าพระองค์สบายใจ“
‭‭สดุดี‬ ‭23‬:‭4‬ ‭TNCV‬‬

ในเรื่องการเชื่อฟังคือการออกไปรบ เป็นเรื่องที่น่ากลัวแต่พวกเขาเชื่อฟังจึงได้รับการปกป้องอย่างอัศจรรย์คือไม่มีใครตายสักคนเดียว ขอพวกเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยการเชื่อฟังเช่นกัน แม้ว่าสิ่งที่พระเจ้านำเรา เราอาจจะไม่อยากทำ เพราะมันยาก และอาจจะดูน่ากลัว แต่ขอพระวิญญาณของพระเจ้าจะเพิ่มเติมความเชื่อและนำให้เราสัมผัสกับกับการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ พระเจ้าจะทรงปกป้อง นำหน้าและนำทางเรา ขอให้เราจะไม่ลืมขอบพระคุณพระเจ้าถึงความอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงทำให้เรา

”ดังนั้นพวกเราจึงนำเครื่องทองที่เราริบได้ มาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้แก่ กำไลมือ สร้อยข้อมือ แหวนตรา ตุ้มหู และสร้อยคอ เพื่อขอลบบาปให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭50‬ ‭TNCV‬‬

สิ่งที่พวกทหารตอบสนองต่อการช่วยเหลือของพระเจ้า คือการขอบพระคุณ การขอบพระคุณนั้นแสดงออกมาเป็นการกระทำด้วยคือมอบถวาย ในความเห็นของผม พวกทหารมอบถวายมากกว่าที่พระเจ้าเรียกร้อง บางครั้งเราก็มีใจขอบพระคุณพระเจ้า เราเองอยู่ในข้อตกลงทุกประการ แต่ทหารเหล่านี้เขาสามารถจะบอกได้ว่า สิ่งที่เขาหามาเป็นของเขา เขาจะไม่แบ่งครึ่งนึงให้ประชาชน ไม่ให้ 1 ใน 500 ให้ปุโรหิต ไม่ให้ 1 ใน 50 กับคนเลวี แต่พวกเขาเชื่อฟังที่จะแบ่งทุกอย่างตามพระทัยของพระเจ้า พวกทหารเหล่านี้ให้มากกว่าที่พระเจ้าเรียกร้อง

”โมเสสและปุโรหิตเอเลอาซาร์รับเครื่องทองเหล่านี้จากเหล่าแม่ทัพนายกอง และนำมาเก็บรักษาไว้ในเต็นท์นัดพบ เป็นอนุสรณ์สำหรับประชากรอิสราเอลต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า“ กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭54‬ ‭TNCV‬‬

โมเสสและปุโรหิตเอเลอาซาร์รับทุกสิ่งไว้ และนำมาเก็บรักษาไว้ในเต็นท์นัดพบ เพื่อเป็นอนุสรณ์ ผมอยากอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น คือนำมาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ให้คิดถึงเรื่องราวสำหรับประชากรอิสราเอลต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

”เพราะบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระเกียรติสิริของพระบิดาพร้อมกับทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นพระองค์จะปูนบำเหน็จแก่แต่ละคนตามการกระทำของเขา“ มัทธิว‬ ‭16‬:‭27‬ ‭TNCV‬‬

ในเวลาของพระเจ้า การงานทุกอย่างทึ่เราทำพระองค์ไม่เคยลืม ขอให้เราจะมีชีวิตแห่งการเชื่อฟังทุกอย่าง ขอให้เราจะมอบถวายสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยมากกว่าทรัพย์สินเงินทองนั่นคือชีวิตของเรา ร่างกายของเราที่บริสุทธิ์ ให้เราถวายความสามารถ และเวลาที่มีเหลืออยู่บนโลกนี้ เพื่อทำตามพระทัย ทำตามพระประสงค์ ทำตามสิ่งที่พระเยซูตรัสสั่งไว้ คือพาผู้คนมาถึงพระเยซู มารับความรักและทางรอด ให้พวกเรานำพวกเขามาอยู่ในคริสตจักร พวกเขาจะเป็นอนุสรณ์สำหรับพระเจ้าและเรา ในเวลาของพระเจ้า พระองค์จะปูนบำเหน็จแก่แต่ละคนตามการกระทำของเรา
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 13, 202410:14
Ep.929 พระองค์ไม่ลืม

Ep.929 พระองค์ไม่ลืม

พระธรรมนำชีวิต
ตอน พระเจ้าไม่ลืม Ep.929

ในการจัดสรรปันส่วนสิ่งต่างๆที่ได้รับมาให้กับทุก เราอาจจะขาดตกบกพร่อง อาจจะพลาดลืมใครบางคนไป แต่พระเจ้าไม่ลืม พระองค์ทรงซื่อสัตย์และยุติธรรม พระเจ้าประทานให้ทุกคนด้วยความยุติธรรมและความซื่อสัตย์ พระองค์ประทานให้คนนั้นตามจำนวนที่เขาพึงจะได้รับ

”พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ให้เจ้าและเอเลอาซาร์ปุโรหิตกับบรรดาหัวหน้าสกุลของชุมนุมชนนับสิ่งที่ชิงมา คือทั้งคนและสัตว์ที่ยึดได้“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭25‬-‭26‬ ‭THSV11‬‬

เราจะเห็นถึงความรอบคอบของพระเจ้าในการนับทรัพย์สินที่ยึดมานั้น พระเจ้าไม่ได้ให้เพียงโมเสสกับปุโรหิตเอเลอาซาร์มานับเท่านั้น พระองค์ให้หัวหน้าเผ่าต่างๆมาร่วมนับและยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใส ขอพระเจ้านำให้เราใช้หลักการความโปร่งใส และพยานที่จะยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้องมากกว่า 3 คน

”แล้วแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของคนที่ร่วมรบ อีกส่วนหนึ่งเป็นของประชากรที่เหลือ“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭27‬ ‭TNCV‬‬

พระเจ้ายุติธรรม พระองค์ทรงแบ่งครึ่งทรัพย์สินทุกอย่างที่หามาได้ แบ่งครึ่งนึงให้ทหาร 12,000 คน และอีกครึ่งหนึ่งให้ประชาชนนับล้านคน ทหารต้องได้มากกว่าเพราะไปรบ ไปหามา แต่พระเจ้าไม่ลืมประชาชนที่รออยู่ที่แคมป์ สัดส่วนที่ออกมาทำให้เราเห็นว่าพระเจ้ายุติธรรม คนที่ทำมากกว่าก็จะได้มากกว่า ทำที่ว่านี่ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ได้แต่ต้องทำในสิ่งที่พระเจ้าต้องการ และตามวิธีการของพระเจ้าด้วย ทำมากก็ได้มาก

”ให้นำหนึ่งในห้าร้อยจากส่วนของผู้ที่ร่วมรบ ไม่ว่าจะเป็นคน วัว ลา แกะหรือแพะมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนดังกล่าวที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านี้ ยกให้ปุโรหิตเอเลอาซาร์ ให้เลือกหนึ่งในห้าสิบจากส่วนที่เป็นของประชากรอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นคน วัว ลา แกะ แพะ หรือสัตว์อื่นๆ มอบให้คนเลวีซึ่งรับผิดชอบดูแลพลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้า”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭28‬-‭30‬ ‭TNCV‬‬

เราจะพบว่าพระเจ้าไม่ลืมใครเลย คนของพระองค์ปุโรหิตและคนเลวี ให้เรามาดูสัดส่วนกัน พระเจ้าให้นำ 1 ใน 500 ถวายแด่พระเจ้า และให้นำส่วนนี้ให้กับปุโรหิต และอีกครึ่งนึงส่วนของประชาชนให้นำ 1 ใน 50 มอบให้คนเลวี สัดส่วนดูแตกต่างกันมากเหตุผลก็คือ ปุโรหิตที่จำนวนน้อยกว่าคนเลวีมาก พระเจ้าทรงยุติธรรม พระองค์ใส่ใจทุกคน พระเจ้าไม่ทรงลืมใครเลย ขอให้เราเลียนแบบพระเจ้าด้วย พวกเรามักจะลืมศิษยาภิบาล ผู้นำและทีมรับใช้ในคริสตจักร สิ่งที่มอบให้ปุโรหิตนี้ไม่ใช่สิ่งที่ได้รับอยู่ปกติ แต่เป็นสิ่งที่เพิ่มให้ขอเราจะคิดถึงทุกคน ในทุกมิติ ใช้สายตาแบบพระเจ้ามองในเรื่องนี่ พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่มีจิตใจกว้างขวาง ขอพวกเราจะใส่ใจในทุกคนเหมือนที่พระเจ้าทรงใส่ใจทุกคน พระเจ้าไม่ลืมใครเลย
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 12, 202409:11
Ep.13 รักกัน ย่อมดีกว่าเกลียดกันจริงไหม?

Ep.13 รักกัน ย่อมดีกว่าเกลียดกันจริงไหม?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(13)

รักกันย่อมดีกว่าเกลียดกัน จริงไหม?

”กินผักเป็นอาหารในที่ที่มีความรัก
ก็ดีกว่ากินเนื้อวัวอ้วนโดยมีความเกลียดชังอยู่ด้วย“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭15‬:‭17‬ ‭THSV11‬‬
”Better to eat vegetables with people you love
than to eat the finest meat where there is hate.“
‭‭ ~Proverbs‬ ‭15‬:‭17‬ ‭GNT‬‬

ในบ้าน ในโบสถ์ ในบริษัท หรือ ในที่อื่นๆ ที่เราอยู่
ควรจะมีความสุข ด้วยความรัก มากกว่า ความทุกข์ขมขื่น ด้วยความเกลียดชัง
~เห็นด้วยไหมครับ?

เราควรเลือก “วันนี้”ให้เป็นวัน “ครอบครัวแห่งความรัก” มากกว่า
ปล่อยให้“วันนี้”เป็น“วันเกลียดกันในครอบครัว”
~เห็นด้วยไหมครับ?

คุณจะเลือกเมนูอาหาร จานไหน สำหรับในบ้านของคุณ?
1.ผัก+ความรัก
2.เนื้อ + ความเกลียดชัง?

“ความเกลียดชัง”(Hate)คือ อะไร?

“ความเกลียด(ชัง)”หมายถึงความรู้สึก“ไม่ชอบ” (dislike)อย่างรุนแรงต่อใครบางคน หรือ อะไรบางอย่าง
ตัวของเราเอง ก็เป็นได้ทั้ง
1.ผู้เกลียด และ
2.ผู้ถูกเกลียด
อย่าคิดว่า เราเกลียดผู้อื่นได้เพียงคนเดียว
คนอื่นเขาก็อาจใช้สิทธิ์ หรือ หาเหตุที่จะเกลียดชังเราได้เช่นกัน
เราจึงต้องระวังตัว อย่าเข้าสู่สมรภูมิแห่งความเกลียดชังโดยไม่จำเป็น
และอย่าให้เราเป็นผู้เริ่มก่อสงครามนี้ขึ้นมา
หากเรา
1).กำลังจะเกลียดชังใครผู้ใด หรือ
2).กำลังถูกผู้ใดเกลียดชังอยู่?

อะไรคือ สิ่งที่เราควรทำ?
ต่อไปนี้ คือ แนวทางที่เราควรทำ

1.หาสาเหตุให้ได้ว่าอะไรหรือทำไมเราและเขาจึงเกลียดชังกัน
2.หาทางเลือกหรือวิธีที่หลากหลาย เพื่อแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดการเกลียดชังกัน
3.หาที่หลบภัยชั่วคราวก่อน ในขณะที่รุนแรงและยังไม่รู้สาเหตุหรือยังหาวิธีรับมือไม่ได้
4.หาข้อสรุปหรือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการกับความเกลียดชังที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อกัน
5.หาความช่วยเหลือทั้ง
1).จากพระเจ้า และ
2).จากมนุษย์ ในการจัดการกับภาวะความเกลียดชังที่เกิดขึ้น
6.หาสถานที่ที่เหมาะสมในการที่จะ
1).ปรับความเข้าใจ หรือ
2).แก้ไขความเกลียดชังที่มีกับคู่กรณี
7.หาเวลาที่สะดวกสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะออกมาพบปะและร่วมกันหาทางออกที่เห็นพ้องต้องกัน
(อาจมีคนกลาง ที่ทั้ง2ฝ่ายเคารพรัก เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ถ้าจำเป็น)
8.หาโอกาสที่จะขออภัยแก่คู่กรณีที่เราทำให้เขาทุกข์ใจ ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่
และรีบให้อภัยกับคู่กรณีของเราให้เร็วที่สุด ด้วย
1).ความรัก และ
2).ความเชื่อฟัง พระวจนะของพระเจ้า
9.หาจังหวะและสถานการณ์ ที่จะพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่กรณีให้ดียิ่งๆขึ้น
จนสามารถ
1).เปลี่ยนจากความเกลียดมาเป็นความชอบกัน และ
2).เปลี่ยนจากศัตรูให้กลายมาเป็นมิตรหรือพี่น้อง

พี่น้องที่รัก คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า…?

“ถูกคนเกลียด ยังไม่แย่ มากเท่าไร
แต่เกลียดใคร แย่กว่า เป็นไหนไหน
ถ้าให้ดี อย่าไป เกลียดผู้ใด
จิตแจ่มใส เมื่อใจ ไม่เกลียดเลย

ทุกเกลียดชัง ไม่ใช่ ความผิดบาป
การเกลียดบาป เป็นสิ่ง ยอมรับได้
เกลียดคนบาป ต่างหาก รับไม่ไหว
เมตตาไว้ เสมอ ทุกตัวคน

จงจัดการ ความเกลียด ในทันที
อย่าให้มี ความเกลียด ครอบครองจิต
เพราะความเกลียด บั่นทอน กร่อนชีวิต
เปลี่ยนความคิด เพิ่มรัก สิ้นเกลียดชัง!”

พี่น้องที่รัก
เราควรเรียนรู้จัก
1.เกลียดในสิ่งที่ควรเกลียด และ
2.รักในสิ่งที่ควรรัก
อย่างไรก็ตาม
แม้เราอาจมีสิทธิ์และเสรีภาพที่จะ“ชอบ” หรือ “ไม่ชอบ”ใครบางคน หรือ การกระทำบางอย่างของเขา
แต่เราไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบ ที่จะ“รัก” “คน”ทุกคน ไม่ว่า เขาจะเป็นคนที่ ดีมาก ดี พอใช้หรือ ต้องปรับปรุง
เพราะว่านี่ คือ พระมหาบัญญัติรักของพระเจ้า!
อย่างไรก็ตาม เราอาจช่วยบางคน(some)ได้ แม้ว่าเราไม่อาจช่วยได้ทุกคน(all)
ดังนั้น ในบั้นปลาย เราต้องปล่อยให้ทุกคนรับผลจาก
1).สิ่งที่เขาทำ หรือ
2).สิ่งที่เขาเลือกเอง!

พี่น้องที่รัก แม้ว่าเราอาจไม่ชอบ ใครบางคน หรือ บางสิ่งที่เขาทำ
แต่ขอให้เรียนรู้ที่จะ เกลียดให้เป็น และรักให้เป็นด้วยในเวลาเดียวกัน
เหมือนดังที่ Nelson Mandela (1918~2013) กล่าวไว้ว่า

“คนเราต้องเรียนรู้ที่จะเกลียด และถ้าเขาสามารถเรียนรู้ที่จะเกลียดเป็น
พวกเขาก็สามารถถูกสอนให้เรียนรู้ที่จะรักได้เช่นกัน!”
(People must learn to hate and if they can learn to hate,
they can be taught to love.)

ดังนั้น ขอให้เรามาเรียนรู้ที่จะทำให้“วันนี้” เป็น“วันรักครอบครัว และทุกคน ”
แทนที่จะเป็น“วันเกลียดชังโลก”

…จะดีไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
13เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

Apr 12, 202410:38
Ep.12 อะไรเป็นสิ่งที่พระเจ้าเกลียด

Ep.12 อะไรเป็นสิ่งที่พระเจ้าเกลียด

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(12)

อะไรคือสิ่งที่พระเจ้าเกลียด?

”พระยาห์เวห์ทรงเกลียดชังใจตลบตะแลง
แต่พอพระทัยคนที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิ“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭11‬:‭20‬ ‭THSV11‬‬
”The Lord hates evil-minded people,
but loves those who do right.“
‭‭ ~Proverbs‬ ‭11‬:‭20‬ ‭GNT‬‬

แม้พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความรัก
แต่พระเจ้าก็เกลียดชังความบาป!

ความรักชื่นชมกับการประพฤติชอบ
แต่ความรักไม่ชื่นชมกับการ
1).ประพฤติผิด หรือ
2).ประพฤติบาป

พระเจ้าแห่งความรัก จึงไม่อาจชื่นชมกับบาปที่เรากระทำได้
…แล้วมีบาปอะไรบ้างที่พระเจ้าเกลียด?

“พระเจ้าเกลียด ตายโส ลิ้นมุสา
เกลียดหัตถา ฆ่าคน บริสุทธิ์
เกลียดใจคิด แผนร้าย เพื่อนมนุษย์
เกลียดเท้ารุด วิ่งไป ในทางชั่ว

พระเจ้าเกลียด พยานเท็จ คำมุสา
เกลียดวาจา หว่านแตก ร้าวพี่น้อง
เกลียดทำบาป แล้วยัง เลี้ยงฉลอง
เกลียดลำพอง ทำตาม อำเภอใจ

พระเจ้าเกลียด นับถือ พระเท็จเทียม
เกลียดใจเปี่ยม อุบาย ร้ายมหันต์
เกลียดบูชา พระเจ้า แต่โกงกัน
เกลียดเดียดฉันท์ ทำตัว น่ารังเกียจ

พระเจ้าเกลียด ตัดสิน ไม่ซื่อตรง
เกลียดเจาะจง ทำผิด ให้เป็นถูก
เกลียดรุนแรง โหดร้าย เข้ากระดูก
เกลียดมัดผูก คนจน ด้วยโซ่ตรวน

พระเจ้าเกลียด อธรรม เปรอะโลกีย์
เกลียดท่าที ทำดี แต่ใจคด
เกลียดตลบ ตะแลง ใสหมดจด
เกลียดพูดปด หลอกลวง ปวงประชา

พระเจ้าเกลียด ดูหมิ่น คำสั่งสอน
เกลียดลดหย่อน ไม่เชื่อ พระดำรัส
เกลียดการชัง พี่น้อง พร้อมกินกัด
เกลียดการขัด ท้าทาย พระบัญชา

พระเจ้าเกลียด อุ่นอุ่น ไม่เย็นร้อน
เกลียดยอกย้อน หักหลัง ทรยศ
เกลียดสองใจ ปันใจ ศรัทธาหมด
เกลียดรักหด หย่าร้าง จบสัมพันธ์

จะดีไหม หากว่า เราตื่นตัว
ดูให้ทั่ว ทั้งใจ และดวงจิต
อย่าให้มี สิ่งทรงเกลียด แม้สักนิด
เพื่อชีวิต ของเรา จะปลอดภัย!”

(อิสยาห์‬ ‭1‬:‭14‬ ‭;เศคาริยาห์‬ ‭8‬:‭17‬;สุภาษิต‬11:20; ‭17‬:‭15‬;‬ ‭15‬:‭8,26‬ ; ‭20‬:‭23‬; ‭‭
1 ยอห์น‬ ‭4‬:‭20‬;ทิตัส1:16;สดุดี45:7)

พี่น้องที่รัก วันนี้ ขอให้เรามาสำรวจตัวของเราเอง
ให้เรารีบ ยุติ ออกห่างไกล หลีกหนี ละเลิก หรือ ละทิ้ง การกระทำใดๆที่พระเจ้าเกลียด
เหมือนดังที่พรรณนาไว้ในข้างต้น

ขอให้เราตั้งเป้าว่า
แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ
แต่เราจะดำเนินชีวิต อย่างไร้ที่ติในสายพระเนตรของพระเจ้า
ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
…จะดีไหมครับ?
~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
12เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี













Apr 12, 202409:51
Ep.928 อย่าปล่อยผ่าน

Ep.928 อย่าปล่อยผ่าน

พระธรรมนำชีวิต
ตอน อย่าปล่อยผ่าน Ep.928

มีบางเรื่องที่เราต้องทำทันที ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นเราไม่สามารถจะไปต่อได้ ยิ่งเป็นเรื่องของความบาป ความสกปรก เรายิ่งต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยถึงจะไปต่อได้

”พวกเจ้าทุกคนที่ฆ่าคนหรือแตะต้องซากศพ จงออกไปอยู่นอกค่ายพักเป็นเวลาเจ็ดวัน แล้วจงชำระตัวเองและเชลยของเจ้าในวันที่สามและวันที่เจ็ด จงชำระเครื่องนุ่งห่มและทุกสิ่งที่ทำจากหนังสัตว์ ขนแพะ หรือไม้ให้สะอาดด้วย” จากนั้นปุโรหิตเอเลอาซาร์กล่าวกับทหารที่กลับมาจากการรบว่า “นี่คือข้อกำหนดตามบทบัญญัติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่โมเสส คือทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ดีบุก ตะกั่ว และสิ่งใดๆ ซึ่งทนความร้อนได้ จงเอาไปเผาไฟเพื่อชำระ จากนั้นล้างด้วยน้ำชำระมลทิน แต่สิ่งใดที่ไม่ทนความร้อนจะต้องล้างด้วยน้ำ ในวันที่เจ็ดจงซักเสื้อผ้า แล้วท่านจะสะอาด และกลับเข้ามาในค่ายพักได้”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭19‬-‭24‬ ‭TNCV‬‬

พระเจ้าสั่งผ่านโมเสสให้ทหารทุกคนอยู่นอกค่ายก่อน 7 วัน ต้องชำระตัวเองและเชลยที่พามานั้นให้เรียบร้อย และปุโรหิตเอเลอาซาร์ก็ยืนยันเรื่องการชำระสิ่งของต่างๆ ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน เมื่อครบกำหนดแล้วจึงกลับเข้ามาในค่ายได้

”ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น“
‭‭1 ยอห์น‬ ‭1‬:‭9‬ ‭THSV11‬‬

ในยุคของเราที่อยู่ในพระคุณของพระเจ้าผ่านพระเยซู เราไม่ต้องมีพิธีหรือต้องรอถึงเวลา 7 วันให้ตัวเองกลับมาสะอาด แต่เราจะฟังเสียงของพระวิญญาณที่สถิตอยู่ในเรา ที่คอยส่งเสียงเตือนเราในทุกครั้งที่เราไม่สะอาด แล้วให้เราอธิษฐานสารภาพต่อพระเจ้าโดยพึ่งพาอาศัยพระโลหิตของพระเยซู แล้วพระเจ้าจะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้สะอาดบริสุทธิ์อีกครั้ง ขอเราอย่าปล่อยผ่านแม้แต่ความบาปเล็ก รีบจัดการมันก่อนที่ความบาปเล็กๆนั้นจะลุกลามกัดกินชีวิตของเราไปจนเราไร้ความรู้สึก วันนี้สำหรับเราการจัดการต่อบาปเป็นเรื่องที่พระเยซูทำให้เราเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เราต้องกลับใจจริงๆ เราต้องไม่ยอมปล่อยผ่านกับบางเรื่องที่พระเจ้าไม่ชอบ เพื่อเราจะเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าตลอดเวลา
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 11, 202407:57
Ep.11 จะเกลียดชังกันไปถึงไหน?

Ep.11 จะเกลียดชังกันไปถึงไหน?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(11)

จะเกลียดชังกันไปถึงไหน?

”ความเกลียดชังเร้าให้เกิดการวิวาท
แต่ความรักให้อภัยการละเมิดทุกอย่าง“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭10‬:‭12‬ ‭THSV11‬‬
”Hate stirs up conflict,
but love covers all offenses.“
‭‭ ~Proverbs‬ ‭10‬:‭12‬ ‭CEB‬‬

คำว่า “เกฺลียด” หมายความ
“ชัง, รังเกียจมาก, ไม่ชอบจนรู้สึกไม่อยากพบอยากเห็นเป็นต้น, ”
บางทีใช้คู่กับคำ ชัง เป็น เกลียดชัง

คำอธิษฐานของ เซนต์ฟรานซิส แห่ง อัสซิซี่(The Peace Prayer of St. Francis of Assisi)
ที่โด่งดัง(แม้ไม่ทราบจริงๆว่า ผู้ใดเป็นคนเขียนไว้เป็นคนแรก) แต่ก็น่าปฏิบัติตามเพื่อรับมือกับความเกลียดชัง อย่าง
1.ที่พระเจ้าพอพระทัยและ
2.ที่จะเกิดผลดีต่อโลกนี้ เป็นอย่างยิ่ง
มีใจความว่า

“Lord, make me an instrument of your peace: where there is hatred, let me sow love; where there is injury, pardon; where there is doubt, faith; where there is despair, hope; where there is darkness, light; where there is sadness, joy.
O divine Master, grant that I may not so much seek to be consoled as to console, to be understood as to understand, to be loved as to love. For it is in giving that we receive, it is in pardoning that we are pardoned, and it is in dying that we are born to eternal life.”

“ ข้าแต่ องค์พระผู้เป็นเจ้า
โปรดทำให้ข้าพระองค์เป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพของพระองค์…
ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าฯหว่านความรัก
ที่ใดมีการทำร้ายกัน ให้ข้าฯหว่านการให้อภัย
ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าฯหว่านความเชื่อ
ที่ใดมีความสิ้นหวังท้อแท้ ให้ข้าฯหว่านความหวัง
ที่ใดมีความมืดมิด ให้ข้าฯหว่านความสว่าง
ที่ใดมีความทุกข์โศกเศร้า ให้ข้าฯหว่านความชื่นชมยินดี

ข้าแต่พระเจ้าจอมเจ้านาย
อย่าให้ข้าฯมุ่งแสวงหาการประเล้าประโลมใจ
เท่ากับที่ประเล้าประโลมใจผู้อื่น
อย่าให้ข้าฯมุ่งแสวงหาความเข้าใจจากคนอื่น
เท่ากับที่เข้าใจผู้อื่น
อย่าให้ข้าฯแสวงหาความรัก
เท่ากับที่่รักคนอื่น

เพราะ
ด้วยการให้ ข้าฯจึงได้รับ
ด้วยการให้อภัย ข้าฯจึงได้รับการยกโทษ
และ
ด้วยในความตายนั้นเอง
ข้าฯจึงได้บังเกิดใหม่เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์”

ใช่ครับ เราไม่ควรเกลียดชังผู้ใด ที่พระเจ้าทรงให้อภัยแก่เขาแล้ว!

ความเกลียดชังไม่เคยช่วยผู้ใด ทั้ง
1).ผู้ที่เกลียดชังและ
2).ผู้ที่ถูกเกลียดชัง

แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่เกลียดชังผู้อื่นมักจะมีความทุกข์มากกว่าผู้ที่ถูกเกลียดชัง
เหมือนที่ Martin Luther King Jr (1929-1968)กล่าวไว้ว่า

“ผมตัดสินใจเลือกยึดติดกับความรัก
เพราะความเกลียดชังเป็นภาระหนักเกินกว่าจะแบกไว้!”
(I have decided to stick to love…
Hate is too great a burden to bear.)

จริงครับ ที่ความเกลียดชัง ทำร้ายผู้ที่เกลียด มากกว่าผู้ที่ถูกเกลียด!

โอสถที่จะ
1.รักษา”โรคเกลียดชัง“ และ
2.เยียวยา “ความทุกข์ทรมาน“
อันเป็นผลมาจากโรคเกลียดชังนั่นก็คือ
“การให้อภัย”
(การละเมิด หรือ ความผิดทุกอย่าง)

ดังนั้น เราจึงควรทำตาม คำแนะนำของท่านอัครทูตเปาโล ที่กำชับว่า

”จงเอา
1.ความขมขื่น
2.ความฉุนเฉียว
3.ความโกรธ
4.การทุ่มเถียง
5. การพูดจาดูหมิ่น
รวมทั้ง
6.การร้ายทุกอย่าง
(รวมทั้งความเกลียดชัง) ออกไปจากพวกท่าน
แต่จงมี
1).ใจกรุณา
2).ใจสงสาร และ
3).ใจให้อภัยแก่กันและกัน
เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์“
‭‭ ~เอเฟซัส‬ ‭4‬:‭31~32‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องครับ
1.จงให้อภัย และ
2.จงหยุดเกลียดชังกันได้แล้ว
…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
11เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 10, 202409:02
Ep.927 สงครามสุดท้าย

Ep.927 สงครามสุดท้าย

พระธรรมนำชีวิต
ตอน สงครามสุดท้าย Ep.927

ชีวิตของเราทุกคนอยู่ในการต่อสู้ตลอดเวลา การต่อสู้ที่ยากที่สุดคือการต่อสู้กับความอยากของตัวเอง ขอพระเจ้าเมตตาที่เราจะชนะสงครามที่เกิดขึ้นภายในใจของเราทุกครั้ง ที่เราจะเลือกทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าเสมอ เพราะวันนี้เราได้เลือกที่จะอยู่ในพระเยซูแล้ว ได้ร่วมอยู่ในชัยชนะนั้นแล้ว พวกเราจึงเป็นผู้ชนะได้ในทุกสงคราม

”องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแก้แค้นชาวมีเดียนให้ชนอิสราเอล หลังจากนั้นเจ้าจะตาย”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭1‬-‭2‬ ‭TNCV‬‬

สงครามสุดท้ายนี้คือสงครามของโมเสส แต่ไม่ใข่สงครามสุดท้ายของคนอิสราเอล และก็ไม่ใช่สงครามสุดท้ายของพวกเราทุกคน

”ดังนั้นโมเสสจึงกล่าวแก่ประชากรว่า “พวกเจ้าบางคนจะต้องเตรียมอาวุธไปทำสงครามกับชาวมีเดียน เพื่อนำการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปถึงพวกเขา จงเกณฑ์พลอิสราเอลมาเผ่าละหนึ่งพันคน”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭3‬-‭4‬ ‭TNCV‬‬

พวกเขารวมพลจากเผ่าต่างๆได้ 12,000 คน การรบครั้งนี้นำทัพโดยฟีเนหัสบุตรของปุโรหิตเอเลอาซาร์นำทัพไป คนที่ระงับพระพิโรธจากอิสราเอลไปได้ กองทัพของพวกเขาไปพร้อมกับเครื่องใช้จากสถานนมัสการและแตรสัญญาณ พระเจ้ามีคำสั่งในการออกทัพครั้งนี้

”พวกเขาสู้รบกับมีเดียนตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส และฆ่าผู้ชายทุกคน“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭7‬ ‭TNCV‬‬

พวกเขาฆ่ากษัตริย์ทั้งห้าองค์ของมีเดียน รวมถึงบาลาอัมผู้ชี้แนะแนวทางการทำลายคนอิสราเอลด้วย คำสั่งคือฆ่าทุกคนไม่เว้นสักคน แต่สิ่งที่กองทัพอิสราเอลทำ
‭‭
”กองทัพอิสราเอลจับกุมผู้หญิงและเด็กชาวมีเดียนมาเป็นเชลย ทั้งกวาดต้อนฝูงสัตว์ทั้งหมดและริบข้าวของมาด้วย“ กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭9‬ ‭TNCV‬‬

แม้ว่าเขาจะเผาเมืองทั้งหมด ฆ่ากษัตริย์และผู้ชาย แต่พวกเขาขัดคำสั่งพระเจ้าคือไว้ชีวิตผู้หญิงและเด็ก พวกเขากวาดต้อนคนเหล่านั้น ฝูงสัตว์ และริบทรัพย์สินทั้งหมด แล้วพวกเขาก็นำมามอบให้โมเสส
‭‭
”โมเสสโกรธนายทหารและแม่ทัพนายกองที่กลับจากการรบเหล่านั้น โมเสสถามพวกเขาว่า “ทำไมจึงปล่อยให้พวกผู้หญิงรอดชีวิตอยู่ได้? คนเหล่านี้แหละที่ทำตามคำแนะนำของบาลาอัม และชักนำชนอิสราเอลให้หันเหจากองค์พระผู้เป็นเจ้าในเหตุการณ์ที่เปโอร์ เป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติที่ทำลายล้างประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭31‬:‭14‬-‭16‬ ‭TNCV‬‬

โมเสสในฐานะผู้นำก็โกรธที่พวกทหารขัดคำสั่ง สิ่งที่พวกเขานำกลับมาคือสิ่งที่ทำให้พระเจ้าโกรธจนเกิดภัยพิบัติ จึงมีคำสั่งใหม่ว่า “จงฆ่าเด็กผู้ชายทุกคนและผู้หญิงทุกคนที่เคยหลับนอนกับผู้ชายแล้ว แต่จงไว้ชีวิตหญิงสาวที่ยังไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายไว้สำหรับพวกเจ้า“ เราพ่ายแพ้สงครามที่อยู่ในหัวของเรา เพราะพวกเรายังแอบเก็บสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชังไว้ในใจหรือเปล่า

”เหตุฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยของท่านคือ การผิดศีลธรรมทางเพศ ความโสมม ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่วและความโลภ ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ เนื่องด้วยสิ่งเหล่านี้พระพิโรธของพระเจ้ากำลังจะมาถึง“ โคโลสี‬ ‭3‬:‭5‬-‭6‬ ‭TNCV‬‬

เราต้องฆ่านิสัยแบบโลกให้ตาย เราต้องหยุดให้อาหารซึ่งเป็นการเลี้ยงและบ่มเพาะความต้องการนั้นไว้ในใจ สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุนำพระพิโรธของพระเจ้ามาถึง ใน THSV11 มีเพิ่มเติมว่า จะมาถึงคนที่ไม่เชื่อฟัง สงครามสุดท้ายของพระเจ้ากับมารซาตานจบลงแล้วด้วยชัยชนะของพระเยซู เมื่อพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ และวันนี้เราสามารถจะชนะสงครามได้ เพราะเราเลือกที่จะอยู่ฝ่ายพระเยซู ขอเพียงแต่เราจะไม่แอบเก็บ แอบให้อาหาร แอบเลี้ยงสิ่งที่พระเจ้าไม่ชอบไว้ ให้เราท่องเอาไว้ว่ายังไงเราก็ชนะ เพราะว่าถ้าเราไม่ชนะ ไม่เลือกที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ยังไงเราก็แพ้ทุกสงคราม แม้ว่าเราจะยืนอยู่ท่ามกลางผู้ชนะแต่วันสุดท้าย เราจะถูกแยกออกจากแกะ ไปข้างซ้ายมือกับฝูงแพะ ขอพระเจ้าเมตตาเราทุกคน ที่จะชนะ ทุกสงคราม จนถึงวันที่เราได้พบกับพระเยซูอีกครั้ง ขอพระเจ้าเมตตาอวยพระพรทุกคน
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 10, 202409:34
Ep.10 มีภรรยาหลายคน ok?

Ep.10 มีภรรยาหลายคน ok?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(10)

มีภรรยาหลายคน O.K?

”ฉะนั้นท่านซึ่งเป็นผู้สอนคนอื่นจะไม่สอนตัวเองหรือ?
ขณะที่ท่านเทศนาว่าไม่ควรลักทรัพย์ ตัวท่านเองลักหรือเปล่า?“
‭‭ ~โรม‬ ‭2‬:‭21‬ ‭THSV11‬‬
”you then who teach others, do you not teach yourself?
While you preach against stealing, do you steal?“
~‭‭Romans‬ ‭2‬:‭21‬ ‭ESV‬‬


ศาสตราจารย์หญิงท่านหนึ่ง ได้รับเชิญให้ไปบรรยาย
และหัวข้อที่เธอเลือกที่จะพูดถึงก็
คือการมีภรรยาหลายคน!
เธอพูดพรรณนาถึงประโยชน์ของการมีภรรยาหลายคนโดยโน้มน้าวว่า
เหตุใดผู้หญิงจึงควรอดทนยอมรับและสนับสนุนสามีของตน
ให้มีภรรยาหลายๆคนได้

ในขณะที่เธอกำลังบรรยายเน้นย้ำหัวข้อนี้
ผู้หญิงคนหนึ่งจากผู้ฟัง ก็ยกมือขึ้นยืนแนะนำตัว และพูดว่า

"ท่านศาสตราจารย์คะ ฉันซาบซึ้งกับหัวข้อที่คุณบรรยายเรื่องนี้มาก
ฉันรู้สึกโล่งใจและรู้สึกหายกลัว เพราะฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นใจกว้าง
สุภาพ เรียบง่ายและมีจิตใจดีงามเช่นนี้
เนื้อหาการบรรยายของคุณทำให้ฉันมีกล้าเปิดใจพูดความจริงเรื่องหนึ่งกับคุณ…"

เธอกระแอมในลำคอ แล้วพูดต่อว่า....

"คือว่า…ฉันอยู่กินกับสามีของคุณมาสี่ปีแล้ว
และเราทั้งสองมีลูกฝาแฝดด้วยกัน!“

ทุกคนในห้องบรรยายตะลึง และ ตกใจมาก!

ศาสตราจารย์หญิงท่านนั้นเมื่อได้ยิน ก็เป็นลม ล้มลงทั้งยืน
และถูกนำส่งโรงพยาบาล

……………
หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาและลืมตาก็เห็นผู้หญิงคนเดิมนั้นยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ กล่าวว่า

“ท่านศาสตราจารย์คะ
จริงๆแล้ว ฉันไม่เคยรู้จักสามีของคุณเลย
ที่ฉันพูดแบบออกไปนั้น ก็เพื่อทดสอบคุณเท่านั้น
และผลก็คือ คุณสอบตก
ดังนั้น คราวหน้า ขอคุณกรุณาช่วยบรรยายเรื่อง
ที่คุณสามารถทำได้จริงๆตามนั้น ด้วยนะคะ!“

พี่น้องที่รัก

เราต้องไม่สอนในเรื่อง
1.ที่เราทำไม่ได้ หรือ
2).ที่เราไม่ตั้งใจที่จะทำตามนั้นจริงๆ!
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ในทุกที่ รวมทั้ง ในคริสตจักรด้วย

อาจารย์ เปาโล ก็ทนเรื่องนี้ไม่ได้ จึงกล่าวตักเตือนพวกคริสเตียนในกรุงโรมที่ทำเช่นนั้นดังนี้

”และถ้าท่านมั่นใจว่า
1.เป็นผู้จูงคนตาบอด
2.เป็นความสว่างให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ในความมืด
3.เป็นผู้สอนคนโง่ เป็นครูสอนเด็ก
เพราะท่านมีแบบจำลองของความรู้และความจริงในธรรมบัญญัตินั้น
ฉะนั้นท่านซึ่งเป็นผู้สอนคนอื่นจะไม่สอนตัวเองหรือ?
ขณะที่
1).ท่านเทศนาว่าไม่ควรลักทรัพย์
~ตัวท่านเองลักหรือเปล่า?
2).ท่านผู้ที่สอนว่าไม่ควรล่วงประเวณี
~ตัวท่านเองล่วงประเวณีหรือเปล่า?
3).ท่านผู้รังเกียจรูปเคารพ
~ตัวท่านเองปล้นวิหารไหม?“
‭‭ (โรม‬ ‭2‬:‭19‬-‭22‬ )

พี่น้องที่รัก
1.อย่าสอนในสิ่งที่เราไม่คิดหรือไม่ยอมทำตาม
2.อย่าแนะนำในสิ่งที่เราทำตามไม่ได้
3.อย่าเอาแต่สอนคนอื่นแต่ไม่สอนตัวเอง
4.อย่าทำในสิ่งที่เราห้ามคนอื่นไม่ให้ทำ

แต่เราควร
1).ทำในสิ่งที่เราสอน หรือ
2).ทำในสิ่งที่เราแนะนำคนอื่นให้กระทำ
…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
10เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี



Apr 09, 202409:44
Ep.925 ตามเวลาที่กำหนด

Ep.925 ตามเวลาที่กำหนด

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ตามเวลาที่กำหนด Ep.925

เมื่อพระเจ้าบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้กับโมเสสแล้ว พระเจ้าตรัสให้โมเสสย้ำเตือนถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อคนของพระองค์

”องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘จงใส่ใจที่จะนำเครื่องบูชามาถวายเราตามเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่เราพอใจ’“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭28‬:‭1‬-‭2‬ ‭TNCV‬‬

พระธรรมกันดารวิถีบทที่ 28 - 29 เป็นเรื่องราวที่พระเจ้าบอกให้โมเสสไปกำชับถึงเรื่องที่คนอิสราเอลต้องทำ คือการนำของถวายในทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกปีและในทุกวันพิเศษต่างๆ ในคำสั่งนี้พระเจ้าเริ่มต้นด้วยว่า “จงใส่ใจที่จะนำเครื่องบูชามาถวายเราตามเวลาที่กำหนด” ใส่ใจในพระเจ้าด้วยการถวาย ซึ่งไม่ใช่เมื่อไรก็ได้ แต่พระเจ้าได้กำหนดทุกอย่างไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ในเวลาไหน เมื่อคิดถึงในยุคเราที่พระเจ้าให้เรามีสิทธิ์ที่เราจะเลือกเอง พวกเราใส่ใจในพระเจ้าในแบบที่พระองค์ต้องการหรือเปล่า ในคำสั่งนี้พูดถึงของถวายที่ต้องนำมาเผาถวายด้วยไฟเพื่อเป็นกลิ่นหอมที่พระเจ้าพอใจ วันนี้ชีวิตของเราเป็นชีวิตที่ให้เกียรติพระเจ้าเป็นคำสรรเสริญอธิษฐานที่เป็นกลิ่นหอมที่พระเจ้าพอใจหรือเปล่า

”โมเสสจึงแจ้งพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดนี้แก่ประชากรอิสราเอล“ กันดารวิถี‬ ‭29‬:‭40‬ ‭TNCV‬‬

สิ่งที่โมเสสทำ คือการบอกให้คนทั้งหมดได้ทราบถึงความต้องการของพระเจ้า เมื่อพูดถึงของถวายผมคิดถึง

”เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง“
‭‭โรม‬ ‭12‬:‭1‬ ‭TNCV‬‬

ของถวายที่พระเจ้าทรงพอพระทัย ในช่วงเวลาของเราคือร่างกายที่พระเยซูทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้ว นี่ถือเป็นการนมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง พระเจ้ากับความบริสุทธิ์อยู่คู่กันเสมอวันนี้พวกเราทุกคนใส่ใจที่จะรักษาร่างกายที่ถูกชำระให้สะอาดแล้วที่ยังคงจะสะอาดบริสุทธิ์อยู่ เพื่อเราเองจะมีชีวิตที่เรียกว่านมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง ขอพระเจ้าเมตตาพวกเราทุกคนที่ทุกอิริยาบทในชีวิตของเรา ตั้งแต่ความคิดภายในจนถึงการกระทำที่แสดงออกให้เห็นจะเป็นสิ่งที่พระเจ้าชอบ สิ่งนี้ถือว่าเป็นการใส่ใจ ที่จะถวายตามเวลาที่กำหนด

”ท่านไม่รู้หรือว่าร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่านซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า? ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาสูง เหตุฉะนั้นจงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด“
‭‭1โครินธ์‬ ‭6‬:‭19‬-‭20‬ ‭TNCV‬‬

ทำไมชีวิตของเราที่อยู่ในพระคุณของพระเจ้า จึงต้องถวายทุกอย่างแด่พระเจ้า คำตอบคือ นั่นเป็นเพราะว่าพระเจ้าก็ได้ให้พระองค์เองกับพวกเรา พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของเราด้วยการซื้อเรามาด้วยราคาสูง ด้วยการสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อเรา เราจึงเป็นของพระองค์ วันนี้พระเจ้าได้ประทับตราว่าเราเป็นของพระองค์ ด้วยการสถิตอยู่ของพระวิญญาณของพระเจ้า ผมอยากให้กำลังใจพวกเราที่เราจะถวายร่างกายที่บริสุทธิ์ ที่พระเยซูซื้อชีวิตของท่านมาด้วยร่างกายและเลือดของพระองค์ และร่างกายนี้ที่พระเยซูทรงชำระให้สะอาดแล้วนี้เป็นที่ประทับสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ เราจึงต้องใส่ใจที่จะถวายทุกสิ่งที่มีเพื่อให้ชีวิตและร่างกายของเราเป็นที่พอพระทัยหรือเป็นที่ชอบใจของพระเจ้า
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 09, 202410:12
Ep.9 คนขยันจะไม่มีวันอดตาย!

Ep.9 คนขยันจะไม่มีวันอดตาย!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(9)

คนขยันจะไม่มีวันอดตาย!

”คนเกียจคร้านจะไม่ได้ปิ้งอาหาร
แต่คนขยันจะได้ทรัพย์สมบัติล้ำค่า“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭12‬:‭27‬ ‭THSV11‬‬
”If you are lazy, you will never get what you are after,
but if you work hard, you will get a fortune.“
‭‭ ~Proverbs‬ ‭12‬:‭27‬ ‭GNT‬‬

หนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งมาสมัครงานที่โรงเรียน
เจ้าหน้าที่เรียกมากรอกข้อความในใบสมัคร
ชายหนุ่มยิ้มแหยแหยกล่าวว่า
“ขอโทษครับผมอ่านหนังสือไม่ออก
เขียนหนังสือไม่ได้เลยครับ”
เจ้าหน้าที่ออกอาการชักสีหน้าทันที กล่าวว่า
“ถึงจะเป็นแค่เป็นนักการภารโรง
ก็น่าจะอ่านออกเขียนได้นะ”
หนุ่มบ้านนอกหน้าซีด กล่าวว่า
“ขอโทษจริงๆครับ ช่วยรับผมหน่อยเถอะครับ
ผมไม่รู้หนังสือจริงๆ”
เจ้าหน้าที่เก็บใบสมัครพร้อมปากกาขึ้น อย่างไร้เยื่อใย บอกกับเขาว่า
”กลับบ้านไปเถอะ“

ชายหนุ่มผู้นี้ จึงเดินทางกลับบ้านนอก เกิดความมุ่งมั่น
จึงจับจอบเสียมหักล้างถางพงบนที่ดินผืนเล็กๆที่ได้จากพ่อเป็นมรดก
และด้วยความมุ่งมั่นมานะ สวนผลไม้ก็เกิดผล มีคุณภาพดี
เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและชาวบ้าน
สวนของเขาที่ทำอยู่ ก็เกิดผลกำไร เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง
จนเขาสามารถซื้อที่ดินข้างเคียงขยายพื้นที่สวนตลอดเวลา
10 กว่าปีต่อมาด้วยความขยันมุมานะ หนุ่มบ้านนอกคนนี้ กลายเป็นพ่อเลี้ยงผู้มั่งคั่ง
วันหนึ่งเขานำเงินเป็นฟ่อนมาเข้าเปิดบัญชีธนาคาร
เมื่อผู้จัดการทราบว่าเขาเป็น พ่อเลี้ยงผลไม้ใหญ่ที่สุดในจังหวัด
ก็รีบลงบริการเปิดบัญชีให้ด้วยตนเอง กล่าวว่า
“ขอบพระคุณครับที่ท่านให้เกียรติเรา ได้บริการรับใช้ท่าน
ขอท่านพ่อเลี้ยงกรุณากรอกข้อความเปิดบัญชีด้วยนะครับ“
พ่อเลี้ยงผู้เป็นที่รู้จักของชาวจังหวัด ส่ายหน้า และกล่าวอย่างยิ้มๆว่า
”พ่อหนุ่มช่วยเขียนเปิดบัญชีให้ผมหน่อยได้ไหม
ผมอ่านหนังสือไม่ออก และเขียนหนังสือก็ไม่ได้“
ผู้จัดการออกอาการงงงัน หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ก็กล่าวขึ้นด้วยความเกรงใจว่า
”ขอโทษครับ ผมไม่ทราบมาก่อนเลย
ขออนุญาตจะเรียนถามหน่อยนึงนะครับ
คนในจังหวัดนี้ต่างก็ได้ยินชื่อเสียงและกิจการที่ใหญ่โตของท่านมานานแล้ว
แต่ท่านกลับบอกว่าท่านอ่านหนังสือไม่ออก และเขียนหนังสือไม่ได้จริงๆหรือครับ?“
พ่อเลี้ยงผู้มั่งคั่ง ยิ้มให้ผู้จัดการธนาคารอย่างใจดีกล่าวว่า

”พ่อหนุ่ม ถ้าผมอ่านหนังสือออก และ เขียนหนังสือได้
ป่านนี้ ฉันคงได้เป็นภารโรงไปแล้วล่ะ!“

พี่น้องที่รัก เราต้อง
1.ไม่งอมืองอเท้า
2.ไม่นั่งโทษโชคชตา หรือฟ้าดิน
3.ไม่โกรธแค้นคนอื่นที่เขาดูถูกเรา
4.ไม่ซ้ำเติมตัวเอง

แต่ให้เรามองดูที่2แขน2มือ ของเรา(ถ้าเรามีอยู่)
และลงมือทำอะไรกับบางอย่างที่”เรามี“หรือ ที่”เราชอบ“
ด้วยความ
1.มุมานะ
2.ขยันต่อเนื่อง
3.มีคุณภาพ
4.สัตย์ซื่อต่อ
1).ตัวเอง
2).สิ่งที่ทำ(ผลงาน) และ
3).ผู้รับบริการ (ตรงกับความต้องการและความคาดหวัง)
และจะยิ่งดีเป็นทวีคูณ ถ้าเรา กระทำสิ่งเหล่านั้น ด้วย
ก.ความรัก
ข.ความฉลาดมีปัญญา
ค.ความใจกว้าง
ง.ความถ่อมใจ
จ.การให้เกียรติผู้อื่น

แล้วความต้องการของเรา
จะได้รับการตอบสนองอย่างจุใจและน่าชื่นชมยินดี
เหมือนที่พระธรรม สุภาษิต กล่าวว่า

”ความต้องการของคนเกียจคร้านก็มีอยู่ แต่จะไม่ได้อะไรเลย
ส่วนความต้องการของคนขยันจะได้รับการตอบสนองอย่างจุใจ“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭13‬:‭4‬ ‭THSV11‬‬
”No matter how much a lazy person may want something,
he will never get it. A hard worker will get everything he wants.“
‭‭ ~Proverbs‬ ‭13‬:‭4‬ ‭GNT‬‬

นั่นคือ หากเราสู้ชีวิต ขยัน ไม่เกียจคร้าน รักและเชื่อวางใจในพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
เราจะมีทุกสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือเราจะ
1.มีอาหาร
2.มีเงินทองทรัพย์สมบัติ
3.มีชื่อเสียงดีเป็นที่ยอมรับ
4.มีมิตรสหาย
5.มีความสุข
6.มีการโปรดปราน และ
7.มีการอวยพรของพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเรา ตลอดไป

…ลองดูสิครับ!

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
9เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 08, 202409:17
Ep.8 คุณได้กำไรเช่นนี้หรือไม่?

Ep.8 คุณได้กำไรเช่นนี้หรือไม่?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(8)

คุณได้กำไรเช่นนี้หรือไม่?

”เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า
การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และ
การตายก็ได้กำไร“
‭‭ ~ฟีลิปปี‬ ‭1‬:‭21‬ ‭THSV11‬‬
”If I live, it will be for Christ, and
if I die, I will gain even more.“
‭‭ ~Philippians‬ ‭1‬:‭21‬ ‭CEV‬‬

พี่น้องที่รัก
เดิมคุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร? หรือ เพื่อใคร?
~เพื่อความฝันและอุดมการณ์ของตัวคุณเอง?
~ เพื่อความสำเร็จของตัวเอง?
~ เพื่อความพอใจของตัวเอง?
~ เพื่อความมั่นคงของตัวเอง?
~ เพื่อครอบครัวของตัวคุณ หรือ เพื่อกลุ่มคณะของตัวคุณเองหรือ?

แล้ว ตอนนี้ คุณยังดำเนินชีวิต เพื่อสิ่งเหล่านั้นอยู่อีกหรือไม่?

พี่น้องที่รัก
คุณรู้จักพระคริสต์แล้วหรือยัง ?
ถ้าคุณรู้จักพระองค์แล้ว เป้าหมายในชีวิตของคุณ
1.ยังคงเหมือนเดิม หรือ
2.เปลี่ยนแปลงไปแล้ว หรือไม่? และอย่างไร?

อาจารย์เปาโล นั้นเดิมทีมีชีวิตอยู่
1).เพื่อศาสนา และ
2).เพื่อพระเจ้าอย่างที่ตัวเขาเองคิดเอง

แต่เมื่อ เขากลับใจมาติดตามพระเยซูคริสต์
เขาก็หายใจเข้าออกเป็นพระเยซูคริสต์
เขาตั้งเป้าหมายที่จะ
1.รับใช้พระคริสต์ และ
2.รับใช้ผู้คนเพื่อพระองค์ แบบถวายหัว โดยกล่าวว่า

“1.ข้าพเจ้าคาดหมาย(มาดมั่น)และ(มุ่ง)หวังว่า
1).จะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย
(จะไม่ทำสิ่งใดให้เป็นที่ละอายเลย)
2).จะมีความกล้าหาญเพียงพอ(อย่างยิ่ง)เพื่อจะทำให้“พระคริสต์”
ทรง“ได้รับการยกย่องสรรเสริญ(ได้รับเกียรติ)”
ก.ในร่างกาย(เพราะกาย)ของข้าพเจ้า
ข.ในเวลานี้ดังเช่น(เหมือน)ที่เคยได้(รับเสมอ)ตลอดมา
ค.ไม่ว่าจะโดย
ก).ชีวิต หรือ
ข).ความตาย
นั่นหมายความว่า
# ”อาจารย์เปาโลไม่ได้กลัวตาย แต่ เขากลัวมีชีวิตอยู่แบบไร้คุณค่า!“
2.ข้าพเจ้าถือว่า สำหรับข้าพเจ้า
1).การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และ
2).การตายก็ได้กำไร
3.ข้าพเจ้าจะทำงานให้เกิดผล ถ้าข้าพเจ้ายังจะมีชีวิตอยู่ในร่างกาย แต่
4.ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะเลือกฝ่ายไหน (ทางไหน)ดี?
5.ข้าพเจ้าลำบากใจ(ยังลังเลอยู่)ระหว่างสองฝ่าย(สองทาง)นี้ คือว่า
1).ใจหนึ่ง ~ข้าพเจ้ามีความปรารถนาจะจากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์
ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก แต่อีก
2).ใจหนึ่ง ~ข้าพเจ้าที่ยังอยู่ในร่างกายนี้ก็จำเป็นมากกว่าสำหรับพวกท่าน
6.ข้าพเจ้ารู้ และแน่ใจอย่างนี้ว่าข้าพเจ้าจะยังอยู่กับท่าน(ทั้งปวง)ทุกคน (ต่อไป)เพื่อ
1).ความเจริญ(ก้าวหน้า) และ
2).ความชื่นชมยินดี ในความเชื่อของท่านทั้งหลาย“
‭‭ (ฟีลิปปี‬ ‭1‬:‭20‬-‭25‬ ‭THSV11‬‬)

อาจารย์ เปาโล กล่าวในทำนองว่า

”อย่าให้เราต้องมานั่งเสียใจ กับสิ่งที่เราไม่ได้ทำในภายหลัง
ในขณะที่ความตายอยู่ตรงหน้าของเรา!“

พี่น้องที่รัก
ขอให้เรากล่าวได้อย่างที่ อาจารย์ เปาโล กล่าวไว้ว่า

“เพราะว่า สำหรับฉัน
ถ้ามีชีวิตอยู่ ฉันก็จะรับใช้พระเยซูคริสต์ และ
ถ้าตาย ฉันก็ได้กำไรมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก!“

คำถามคือ “แล้วเราจะได้กำไรอะไร เมื่อเราตายเพื่อพระคริสต์?”
คำตอบคือ
“เราจะได้กำไรดังนี้
1.เราได้หยุดพักจากการทำงานยากลำบากที่ต้องทำตามหน้าที่
2.เราได้วางภาระหนัก และความเหนื่อยล้า ที่แบกไว้มานานลง
3.เราได้หลุดพ้นจากความเจ็บป่วยและความเจ็บปวดทุกอย่างของกายเก่า
4.เราได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการต่างๆของชีวิต
5.เราได้รับการปลดเปลื้องหนี้สินทั้งปวงจนหมดสิ้น
6.เราได้ยุติความขัดแย้ง การต่อสู้ และการสูญเสียทุกประการลง
7.เราได้หลุดพ้นจากสรรพทุกข์ภาวะ อาทิ ความว้าเหว่ ความเสียใจ
และความสิ้นหวัง
8.เราได้รอดและวิญญาณของเราได้เริ่มต้นอยู่อย่างมีความสุขเป็นนิรันดร์
กับพระเจ้าในกายใหม่
9.เราได้เห็นงานที่เราเริ่มต้นไว้ มีคนสานต่อไป อย่างไม่ขาดตอน
10.เรายังมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของคนที่รักเรา และคนอื่นๆต่อไป แม้เราตายไปแล้ว”


พี่น้องที่รัก
วันนี้ คุณมั่นใจ ว่าชีวิตของคุณจะได้กำไร เช่นเดียวกันนี้ ในยามที่คุณตายเพื่อพระคริสต์
…หรือไม่ครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
8เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี


Apr 07, 202409:39
Ep.924 หมดวาระ

Ep.924 หมดวาระ

พระธรรมนำชีวิต
ตอน หมดวาระ Ep.924

ในเวลาของพระเจ้า เมื่อผู้นำคนนึงหมดวาระลง พระเจ้าทรงเตรียมคนของพระองค์ไว้เสมอ ในการเปลี่ยนผ่านพระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนดคน วันเวลาไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งผู้นำเก่า ผู้นำใหม่ ทีมผู้ร่วมงาน และผู้ตามไม่ต้องกังวล เพียงแต่เราต้องพาตัวเองเข้ามาอยู่ในข้อตกลง พาตัวเองเข้ามาอยู่ในกำหนดการทุกอย่างของพระเจ้า

”โมเสสกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าแห่งจิตวิญญาณของมวลมนุษยชาติ ขอทรงแต่งตั้งผู้นำของชุมชนนี้ เป็นผู้ที่จะนำพวกเขาออกรบ คอยพิทักษ์พวกเขา เพื่อประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่เป็นอย่างแกะที่ปราศจากคนเลี้ยง” กันดารวิถี‬ ‭27‬:‭15‬-‭17‬ ‭TNCV‬‬

เมื่อโมเสสรู้ว่าตัวเองหมดเวลาแล้ว เขาร้องทูลขอให้พระเจ้าแต่งตั้งผู้นำคนต่อไป เพื่อประชาชนจะไม่เคว้งคว้าง พวกเขาจะได้มีผู้นำ

”องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงนำโยชูวาบุตรนูนผู้มีพระวิญญาณอยู่ภายในเข้ามา แล้ววางมือบนเขา โดยให้เขายืนอยู่ต่อหน้าปุโรหิตเอเลอาซาร์และชุมนุมประชากรทั้งปวง แล้วแต่งตั้งเขาต่อหน้าคนเหล่านั้น จงมอบสิทธิอำนาจของเจ้าบางส่วนให้เขา เพื่อชุมชนอิสราเอลทั้งหมดจะเชื่อฟังเขา เขาจะยืนอยู่ต่อหน้าปุโรหิตเอเลอาซาร์ผู้ซึ่งทูลขอคำตัดสินให้เขาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยฉลากศักดิ์สิทธิ์แล้วโยชูวาและชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวงก็จะทำตามคำสั่งของปุโรหิตเอเลอาซาร์”“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭27‬:‭18‬-‭21‬ ‭TNCV‬‬

พระเจ้าทรงเตรียมโยชูวาไว้สำหรับการนำคนอิสราเอล แต่ไม่ใช่เพียงแค่เตรียมไว้ พระเจ้าสั่งให้โมเสสวางมือบนโยชูวาเพื่อมอบสิทธิอำนาจให้โยชูวาต่อปุโรหิตและประชาชนเพื่อทุกคนจะเชื่อฟังโยชูวา และยังกำชับถึงทีมผู้ร่วมงานคือปุโรหิต พระเจ้าเองเป็นผู้นำสูงสุด พระองค์จะสั่งการทุกอย่างผ่านเอเลอาซาร์ปุโรหิตและทุกคนต้องเชื่อฟังสิ่งที่พระเจ้าสั่ง

”โมเสสก็ปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา เขาพาโยชูวามาต่อหน้าปุโรหิตเอเลอาซาร์และชุมนุมประชากรทั้งปวง แล้วโมเสสจึงวางมือบนโยชูวาและแต่งตั้งเขาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชา“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭27‬:‭22‬-‭23‬ ‭TNCV‬‬

โมเสสก็เชื่อฟังทำตามทุกประการ วันนี้หากเราเป็นผู้นำที่หมดวาระแล้วหรือเราอาจจะเป็นผู้ที่พระเจ้าวางไว้ให้ขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำ ถ้าเราเป็นทีมงานร่วมทำงานเหมือนปุโรหิต หรือสุดท้ายเราเป็นเพียงประชาชน พวกเราจะยอมอยู่ในหน้าที่ ที่จะเชื่อฟังพระเจ้าและมีส่วนสนับสนุนงานของพระเจ้าตามตำแหน่งหน้าที่ และความสามารถที่พระเจ้าใส่ไว้ในชีวิตของเราหรือเปล่า ขอพระเจ้านำให้เราทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คือการเชื่อฟังพระเจ้าทุกประการ
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 07, 202407:21
Ep.7 วิธีรอดพ้นจากวงจรแห่งหนี้สิน

Ep.7 วิธีรอดพ้นจากวงจรแห่งหนี้สิน

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(7)

วิถีรอดพ้นจากวงจรแห่งหนี้สิน!

”อย่าเป็นหนี้อะไรใครเลย
นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน
เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่น ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว“
‭‭ ~โรม‬ ‭13‬:‭8‬ ‭THSV11‬‬
”Owe no one anything,
except to love each other,
for the one who loves another has fulfilled the law.“
‭‭ ~Romans‬ ‭13‬:‭8‬ ‭ESV‬‬

Joseph B. Wirthlin กล่าวว่า

“จงจำไว้ว่า หนี้คือรูปแบบหนึ่งของพันธนาการ
มันคือ ปลวกทางการเงิน!“
( Remember this: debt is a form of bondage.
It is a financial termite.)

ให้เราระวังปลวกแห่งหนี้สิน ตัวนี้ ไม่ให้มันเข้ามาในชีวิตและในครอบครัวของเรา!

“หนี้”
1.(ทั่วไป)หมายถึง ”เงินที่ยังติดค้างอยู่จะต้องใช้คืน, หนี้สิน.“
2.(กฎหมาย)หมายถึง ”นิติสัมพันธ์(ความผูกพันในทางกฎหมาย)
ระหว่างบุคคลตั้งแต่ ๒ ฝ่าย ขึ้นไป
ซึ่งฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ‘เจ้าหนี้’มีสิทธิ(ความชอบธรรม)ที่จะบังคับบุคคล
อีกฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ‘ลูกหนี้’ ให้จำต้อง
1).ส่งมอบทรัพย์สิน
2).กระทำการ หรือ
3).งดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้

พระคัมภีร์สอนเรา ไม่ให้เป็นหนี้อะไร นอกจาก หนี้ความรัก ที่ต้องจ่ายคืนกับทุกคน!
แล้วเราควรจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เรา
1.เป็น “หนี้”(ทางการเงิน) หรือ
2.ตกอยู่ในวงจรแห่งการเป็นหนี้ ?

สิ่งที่เราต้องทำคือ
1.เราต้องตื่นตัวและระวังตัวอยู่เสมอ
2.เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงินไม่ให้
1).ตกหลุมวงจรเหล่านี้ หรือ
2).ไหลไปกับกระแสโฆษณาชวนเชื่อของ
ก.เงินกู้
ข.บัตรกดเงินสด
ค.บัตรเครดิตต่างๆ
ง.การลงทุนแบบรวยเร็ว
เพราะถ้าเราเริ่มตอบสนองเมื่อใด เราจะถูกดึงให้ตกลงสู่หลุมหรือ
วงจรแห่งหนี้สินในทันที
และจากเงินกู้เพียงไม่กี่พันบาท ก็อาจกลายเป็นหนี้หลักหมื่นหรือหลักแสนและ
ในที่สุดเราก็ไม่สามารถหลุดออกจากวงโคจรหนี้ได้

ดังนั้น จะเป็นการดี ที่เราจะสร้างเกราะป้องกันตัวง่ายๆขึ้นมา ดังนี้
1. มีสติสัมปชัญญะไว้เสมอ 2.ไม่โลภ เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและการลงทุน 3.ประมาณตน รู้จักพอใจกับความพอเพียง
4.ลดหรือปิดบัตรเครดิตต่างๆที่ไม่ได้ใช้ และใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น
5.ทำงบประมาณประจำเดือนตามความเป็นจริง โดยตั้งเป้าว่าจะ “ไม่จ่ายมากกว่ารับ” 6.สามารถแจกแจงค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเราเองได้อย่างชัดเจน 7.เพิ่มรายรับและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้เหลือน้อยที่สุด
8.มีที่ปรึกษาที่ดี ให้ปรึกษาก่อนตัดสินใจใช้จ่ายเงิน ซื้อ หรือลงทุน
9.อย่าคิดเอาตัวรอด ด้วยการยืม หรือการกู้เงิน โดยไม่สมควร
10.ให้พระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางในเรื่องเงินของเราเสมอ ตั้งแต่เรื่อง
1).หาเงิน~อย่างสนุก
2).ใช้เงิน ~อย่างฉลาด
3).ลงทุน ~อย่างระมัดระวัง และ
4).ให้เงิน ~อย่างเมตตา และใจกว้างขวาง ด้วยความรัก

พี่น้องที่รัก หากเราทำดังที่แนะนำไว้ข้างต้น
เราก็คงจะห่างไกลจาก
1.“ภาวะของการเป็นหนี้”
2. “ภาระของการเป็นหนี้” และ
3.“วงจรแห่งหนี้สิน”

…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
7เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 06, 202408:11
Ep.923 อย่าเอาอารมณ์มานำหน้า

Ep.923 อย่าเอาอารมณ์มานำหน้า

พระธรรมำชีวิต
ตอน อย่าเอาอารมณ์มานำหน้า Ep.923

เราทุกคนจะมีช่วงเวลาที่เอาอารมณ์มานำเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เรารักสุดๆ จนหลงมีเหตุผลอะไรมาก็ฉุดไม่อยู่ หรือจะเป็นเวลาที่เราโกรธจนหูดับ มีเหตุผลดีแค่ไหนหรือจะอะไรมาก็ไม่สามารถฟัง หรือทัดทานสิ่งทึ่พลุ่งออกไปใส่ผู้คนรอบตัว

”พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงขึ้นไปบนภูเขาอาบาริมนี้ แล้วมองดูแผ่นดินซึ่งเรามอบให้แก่คนอิสราเอล และเมื่อเจ้าได้เห็นแล้ว เจ้าจะจากไปอยู่กับประชาชนของเจ้าด้วย เหมือนอย่างอาโรนพี่ชายของเจ้าที่จากไปนั้น เพราะว่าเจ้าทั้งสองกบฏต่อถ้อยคำของเราในถิ่นทุรกันดารศินระหว่างที่ชุมนุมชนมาโต้แย้ง เจ้าไม่ได้ถวายความศักดิ์สิทธิ์แก่เราต่อหน้าเขาทั้งหลายที่น้ำนั้น” (นี่คือน้ำที่เมรีบาห์แห่งคาเดชในถิ่นทุรกันดารศิน)“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭27‬:‭12‬-‭14‬

พระเจ้าทรงแจ้งกับโมเสสว่า เขากำลังหมดเวลาแล้ว พระองค์ย้ำบอกเขาอีกครั้งว่า เขาจะไม่ได้เข้าไปในดินแดนที่พระเจ้าสัญญาไว้ แต่จะได้เห็นแล้วจะจากไป ภาษาเดิมใช้คำที่แปลได้ว่า เมื่อได้เห็นแล้วจะถูกรวบไป ในอมตะธรรมใช้คำว่าเห็นแล้วจะตาย หลายคนมาอ่านตรงนี้อาจจะมีคำถามว่า ทำไมโมเสสถึงไม่ได้เข้าไป เหตุผลก็คือเขาไม่ได้ถวายความศักดิ์สิทธิ์ หรือให้เกียรติพระเจ้าต่อหน้าชุมนุมชุมชนอิสราเอล เขากบฎ ฝ่าฝืนไม่เชื่อฟังสิ่งที่พระเจ้าสั่ง เพราะเขาเลือกที่จะทำตามอารมณ์โกรธที่คนอิสราเอลบ่นต่อว่าพระเจ้า นี่ทำให้เห็นว่า สิ่งที่เราเลือกจะมีผลตามมาเสมอ พระเจ้าของเราให้สิทธิ์กับพวกเราทุกคนที่จะเลือก หากเราเลือกที่จะเชื่อฟังพระองค์ ผลที่ได้รับก็คือพระพร

”อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างจากปากของเจ้า แต่จงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะทำตามข้อความทุกประการที่เขียนไว้นั้น แล้วเจ้าจะมีความเจริญ และประสบความสำเร็จ“
‭‭โยชูวา‬ ‭1‬:‭8‬

ขอพระเจ้าเมตตาเราทุกคนที่จะไม่เอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล แต่ขอให้เราใช้เหตุผลของพระเจ้าด้วยที่ถูกบันทึกไว้ในพระวจนะของพระเจ้า ไม่ใช่เหตุผลที่ดูดีแบบที่คนฉลาดๆเขาคิดไว้ และเราต้องใคร่ครวญและทำตามพระวจนะของพระเจ้าทุกประการ แล้วชีวิตของเราจะเจริญ และประสบความสำเร็จ
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 06, 202407:55
Ep.6 คู่สมรสจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างไร?

Ep.6 คู่สมรสจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างไร?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(6)

คู่สมรสจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขยั่งยืนได้อย่างไร?

”เจ้าจงชื่นชมยินดีในชีวิตกับภรรยาซึ่งเจ้ารักตลอดชีวิตอนิจจัง
ที่ได้ประทานให้แก่เจ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ตลอดวันเวลาอนิจจังของเจ้า
เพราะว่านั่นเป็นรางวัลสำหรับชีวิต
และสำหรับการตรากตรำของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ตรากตรำภายใต้ดวงอาทิตย์“
‭‭ ~ปัญญาจารย์‬ ‭9‬:‭9‬ ‭THSV11‬‬
”Enjoy life with your wife, whom you love,
all the days of this meaningless life that God has given you under the sun
—all your meaningless days.
For this is your lot in life and in your toilsome labor under the sun.“
‭‭ ~Ecclesiastes‬ ‭9‬:‭9‬ ‭NIV‬‬

วันนี้ คือ วันที่6เมษายน
ตรงกับวันแต่งงานครบรอบ 45ปี(1979~2024)ของผมพอดี!

ผมเลยคิดถึง คำสอนจากพระคัมภีร์ในเรื่องชีวิตสมรส
เพราะพระเจ้าทรงบัญชา ให้ ผู้ชายอยู่กินกับภรรยาที่เขารัก
ด้วยความชื่นชมยินดีตลอดวันคืนอนิจจัง
ซึ่งพระเจ้าประทานให้ ภายใต้ดวงอาทิตย์
เพราะถือว่านี่คือส่วน
1.ในชีวิต และ
2.ในการงานตรากตรำ ของผู้ชาย ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่จะนำ
1).ความสุขชื่นชมยินดี
2).ความอิ่มเอมใจ
3).ความสำเร็จ หรือ
4).ความมั่งคั่งมาสู่ชีวิต และครอบครัวของเขา

แล้ว ผู้ชาย รวมทั้งผู้หญิง จะอยู่กินอย่างมีความสุข อย่างยั่งยืนได้อย่างไร?

คำตอบคือ หากว่า เราปรารถนาให้ครอบครัวของเรา
อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขยั่งยืน เราต้องทำงานตรากตรำ ดังนี้

1.เราแต่ละคนต้องรักพระเจ้าและให้พระเจ้ามาก่อนสิ่งอื่นๆในชีวิตเรา
2.เราแต่ละคนต้องรักกัน~ด้วยความรักที่มากจากพระเจ้า
3.เราทุกคนต้องรักพระเจ้าและรักครอบครัวของเราก่อนรักสิ่งอื่นหรือคนอื่น
4.เราต้องสร้างประสบการณ์กับครอบครัวในเชิงบวกให้มากกว่าเชิงลบ
หรือ สัดส่วน3:1 (ถ้ามีลบ1 ต้องมีบวก3ทุกครั้ง)
5.เราแต่ละคู่ต้องแสดงความรักต่อกันด้วย“ภาษารัก”ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการและซาบซึ้ง

1).ถ้าภาษารักของเขาหรือของเธอ หรือของเราคือ“เวลา”
~จงตกลงกันที่จะให้เวลาเป็นส่วนตัว ที่สนุก ผ่อนคลาย และมีชีวิตชีวา
ก.แก่ตัวเขาหรือเธออย่างเป็นอิสระ ~1ส่วน เรียกว่า “เวลาของเธอ”
(เป็นส่วนตัวของเขาหรือเธอกับตัวเอง กับเพื่อน หรือกับบครอบครัวเดิมของเขา)
ข.แก่ตัวเราเองอย่างเป็นอิสระ~1ส่วน เรียกว่า “เวลาของฉัน”
(เป็นส่วนตัวกับตัวเราเอง กับเพื่อนหรือกับครอบครัวเดิมของเรา)
ค.แก่เรา(ทั้งครอบครัว) ~1ส่วน เรียกว่า “เวลาของเรา”
(เพื่อสนุกร่วมกันอย่างน่าจดจำ)

2).ถ้าภาษารักของเขาหรือของเธอหรือของเราคือ“การเคารพให้เกียรติต่อกัน”~จง
ก.ยอมรับตัวเขาหรือเธอ อย่างสิ้นเชิง ทั้งภูมิหลัง อดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
ข.ยอมรับในตัวครอบครัวของเขาและของเธออย่างสิ้นเชิง
ค.ให้เกียรติทั้งตัวเขา และครอบครัวของเขาอย่างเหมาะสม ในเรื่อง
ก).อัตลักษณ์ /บุคลิกภาพ
ข).อุดมการณ์
ค).ความคิด ทัศนคติ
ง).ความเชื่อ
จ).ความสนใจ
ฉ).งานอดิเรก
ง.ไม่วิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิ เรียกร้องกดดัน หรือพยายามเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายหนึ่ง
ตามความต้องการของเรา
จ.เปิดใจพูดและเปิดหูรับฟัง อย่างใส่ใจและตั้งใจ เพื่อจะเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งอย่างให้เกียรติ
ฉ.ปฏิบัติต่อกัน และรักษากันและกันด้วยการให้ความสำคัญและความเคารพต่อกัน
ถือหลักว่า
“จงทำกับผู้อื่นเหมือนที่เราต้องการให้เขาทำกับเรา ”
และควรถามความเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งก่อนตัดสินอยู่เสมอ! 3).ถ้าภาษารักของเขา ของเธอ หรือของเราคือ“ คำพูด หรือถ้อยคำ” ~จง
ก.ใช้คำว่า “เรา” มากกว่า “ฉัน” หรือ “เธอ” เวลาสื่อสารต่อกัน
ข.มองและพูดถึงจุดดี หรือพูดในเชิงบวกหรือเปลี่ยนคำพูดลบให้เป็นบวกอยู่เสมอ
ค.ควรพูดขอบคุณ ทุกครั้งที่อีกฝ่ายหนึ่งทำสิ่งที่ดีให้
ง.ควรขออภัยทุกครั้งที่เราทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ ไม่ว่า เราจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด
และจงให้อภัยทุกครั้ง
จ.ส่งข้อความหนุนใจ หรือ ให้กำลังใจ แก่กันอยู่เสมอ ทั้งในเวลาปกติ และช่วงเวลาพิเศษ

4).ถ้าภาษารักของเขาหรือเธอ หรือของเราคือ “สิ่งของ” หรือ “เงินทอง”~ จง
ก.มอบเงิน หรือ สิ่งของแทนเงิน หรือสิ่งที่เขา/เธอชอบ (ไม่ใช่ที่เราชอบ)ให้เป็นของขวัญ
ตามโอกาส
ข.ให้ความรู้สึกมั่นคงทางการเงินแก่กัน โดยร่วมกันวางแผน หามาและใช้ตามที่ตกลงกัน
ค.ให้แสดงความรักผ่านวัตุสิ่งของเช่น ภาพคู่ติดไว้ที่บ้านหรือ เผยแพร่รูปครอบครัว
ทางโลกอินไลน์ (ถ้าเห็นพ้อง) 5). ถ้าภาษารักของเขาหรือของเธอหรือของเราคือ “สัมผัส”~จง
ก.ให้เราแสดงออกถึงความใกล้ชิดเสน่หาต่อคนรักของเรา
ข.ให้เราสัมผัสคนรักของเราอย่างที่เขาหรือเธอต้องการ(อย่างเหมาะสมถูกกาละเทศะ)
ก).โอบกอด
ข).หอมแก้ม
ค).จับมือ
ง).มีเพศสัมพันธ์ (แม้ไม่ใช่ว่าต้องมีเพศสัมพันธ์เสมอไป แต่เราต้องไม่แสดงอาการปฏิเสธ
อย่างไม่แยแส)
ค.การสัมผัสอีกฝ่ายต้องการในยามที่เขาหรือเธอต้องการคือ การบำบัดที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคู่พี่น้องที่รัก
เราต้องเข้าใจ ก่อนว่า ชีวิตสมรส และชีวิตครอบครัว
ไม่ได้เป็นอย่างในหนังที่เกิดขึ้นภายเพียง1~2ชั่วโมง หรือใน ซีรี่ย์ 16ตอน
แต่ในชีวิตจริงเป็นเรื่องราวยาวนาน
ที่หลากหลายรสชาติ ซึ่ง
1).มีทั้งขึ้นมีลง
2).มีทั้งทุกข์และมีสุข
3).มีทั้งสมหวังและผิดหวัง สลับกันไปมา
ซึ่งถ้าคู่สมรสและครอบครัวปรารถนาจะอยู่ร่วมกันไปตลอดรอดฝั่ง
จนถึงปลายทางทุกคนต้องอาศัย “ความตั้งใจ”(Willing) เป็นตัวนำ
ไม่อาจใช้ ความรู้สึก(Feeling)!
Apr 05, 202413:51
Ep.922 ก็มันจะไม่ไหวแล้ว

Ep.922 ก็มันจะไม่ไหวแล้ว

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ก็มันจะไม่ไหวแล้ว Ep.922

ผมอยู่บ้านที่บางคล้าแล้วครับ วันนี้เรากลับมาที่พระธรรมกันดารวิถีกันต่อหลังจากหายไปตั้งแต่ Ep.914 จนถึงวันนี้ เรากำลังอยู่กับพระลักษณะของพระเจ้าในความยุติธรรมของพระองค์ ลูกสาวของเศโลเฟหัดมาขอส่วนแบ่งมนมรดกที่ดิน เพราะพ่อเขาเสียชีวิตแล้วแต่ไม่มีลูกชาย เขาจึงมาขอจากโมเสสและชุมนุมชนอิสราเอล โมเสสจึงนำเรื่องนี้ทูลถามพระเจ้า วันนี้เรามาต่อกันที่คำตอบของพระเจ้า

”และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า “บุตรสาวของเศโลเฟหัดพูดถูก เจ้าต้องแบ่งที่ดินให้พวกนางเป็นมรดกร่วมกับพี่น้องของบิดา จงยกส่วนแบ่งของบิดาให้แก่พวกนางเถิด“
‭‭กันดารวิถี‬ ‭27‬:‭6‬-‭7‬ ‭TNCV‬‬

หลังจากคำตอบนี้ พระเจ้าทรงมีกฎหมายเกี่ยวกับมรดกที่ดิน พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าพระองค์ทรงยุติธรรม พระองค์ทรงมีการจัดการที่เหมาะสมกับทุกคนและกับทุกเรื่องด้วย ขอพระเจ้าเมตตาพวกเราที่เราจะอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ด้วยความไว้วางใจ จริงครับในบางเรื่องที่เราถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม เหมือนลูกสาวของเศโลเฟหัด มันก็ทำให้เราร้อนใจ และอาจจะถึงความโกรธ แต่เราเลียนแบบพวกเธอโดยให้นำทุกเรื่องราวนั้นมาร้องทูลต่อพระเจ้า พระเจ้ามีคำตอบเสมอ

”จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำความดี จงอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นและรื่นรมย์อยู่ในทุ่งหญ้าอันปลอดภัย จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะประทานสิ่งที่ใจของท่านปรารถนา จงมอบทางของท่านไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า จงวางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงทำสิ่งเหล่านี้ คือ พระองค์จะทำให้ความชอบธรรมของท่านฉายแสงดั่งรุ่งอรุณ ให้ความยุติธรรมในคดีของท่านเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์ อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี จงระงับโทสะ เลิกโมโหโกรธาเสีย อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งมีแต่จะนำไปสู่ความเลวร้าย เพราะคนชั่วร้ายจะถูกกำจัด แต่บรรดาผู้ที่หวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก“ สดุดี‬ ‭37‬:‭3‬-‭9‬ ‭TNCV‬‬

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะไว้วางใจในพระองค์และทำตามพระทัยของพระเจ้าคือทำความดีอยู่เสมอ แต่ขอให้เรามั่นใจว่า เราจะมีความชื่นชมยินดีในพระเจ้าเสมอ หากเรามอบทุกเรื่องราวในชีวิตของเราไว้กับพระเจ้า เพราะพระเจ้าจะประทานสิ่งที่เราต้องการให้เราแน่นอน หากความต้องการของเรานั้นตรงกับพระประสงค์ ความต้องการของพระเจ้า ในเวลาที่ถูกกระทำนั้น อย่าให้ใจของเราโกรธ ร้อนรน ทุรนทุราย จนพึ่งพาตัวเอง พึ่งพากำลัง เงิน และคนอื่นมากกว่าพระเจ้า ขอให้เราสงบนิ่งอยู่ และจะนำเรื่องราวนั้นมาร้องทูลร้องต่อพระเจ้า ความโกรธจะมีจะทำให้เราผิดพลาดเสมอ แต่จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่าพระเจ้าทรงเฝ้าดูเราอยู่ตลอดเวลา และพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่ยุติธรรมเสมอ
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 05, 202408:60
Ep.5 เกรงว่าจะลืม!

Ep.5 เกรงว่าจะลืม!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(5)

เกรงว่าจะลืม!

“จงระวังให้ดีเกรงว่าท่านจะนึกในใจว่า
‘กำลังและเรี่ยวแรงของข้านำทรัพย์
มีค่านี้มาให้ข้า’“
‭‭ ~เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭8‬:‭17‬ ‭THSV11‬‬
”When you become successful,
don't say,
“I'm rich, and I've earned it all
myself.”“
‭‭ ~Deuteronomy‬ ‭8‬:‭17‬ ‭CEV‬‬

Brian Tracy กล่าวได้อย่างติดหูผู้ฟังว่า

“จงให้โดยไม่จำ
และจงรับโดยไม่ลืม!”
(Always give without remembering and
always receive without forgetting.)

ปัญหาคือ ประชากรของพระเจ้าทั้งอิสราเอลเก่า และอิสราเอลใหม่
มักมีปัญหาคือ มักลืมในสิ่งที่ควรจำ!
พวกเขาและพวกเราล้วนรับพระคุณของพระเจ้ามามากมาย
แต่แล้ว พวกเขาและพวกเราก็กลับลืม
1.พระเจ้า และ
2.พระคุณของพระเจ้า
ไปแบบง่ายๆและแบบบ่อยๆ

ซึ่งการทำเช่นนี้ เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตัวของเรา
เหมือนดังที่ A.W.Tozer กล่าวไว้ว่า

“ กับดักที่อันตรายมากที่สุด ก็คือการที่เราแค่มีชีวิตอยู่และ
ลืมว่าพระเจ้าพระเจ้าทรงดำรงอยู่ด้วย!”
(The most dangerous trap is just living and
forgetting that God exists.)
- Aiden Wilson Tozer

โมเสส จึงเตือนชาวอิสราเอลไม่ให้
1.ลืมตัว และ
2.ลืมพระเจ้า
โดยท่านเตือนพวกเขาตรงๆว่า
“ท่าน
1.จงระวังตัว
1).เกรงว่า
~จะลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยไม่รักษาพระบัญญัติกฎหมาย
และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้
2).เกรงว่า เมื่อท่าน
ก.ได้รับประทานจนอิ่ม
ข.ได้สร้างบ้านดีๆ
ค.ได้อาศัยอยู่ในนั้น
ง.ได้ฝูงโคและฝูงแพะแกะทวีจำนวนขึ้น
จ.ได้เงินทองทวีมากขึ้น และ
ฉ.ได้ทุกสิ่งที่มีอยู่ทวีขึ้น

ผลที่ตามมา จะเป็นอย่างนี้ คือ
ก.ใจของท่านจะผยองขึ้น และ
ข.ลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
ก).ผู้ทรงนำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ คือออกจากแดนทาส
ข).ผู้ทรงนำท่านมาตลอดถิ่นทุรกันดารใหญ่น่ากลัว
-ซึ่งมีงูแมวเซาและแมงป่องและดินแห้งแล้งไม่มีน้ำ
ค).ผู้ประทานน้ำจากหินแข็งแก่ท่าน
ง).ผู้ทรงเลี้ยงท่านด้วยมานาในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จัก

2.จงรับรู้ว่า พระเจ้าทรงทดสอบท่านเพื่อพระองค์จะ
1).ทรงทำให้ท่านถ่อมใจและ
2).ทรงทดสอบท่าน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์แก่ท่านในบั้นปลาย

3.จงระวังให้ดีเกรงว่าท่านจะนึกในใจว่า
1).‘กำลังและ
2).เรี่ยวแรงของข้านำทรัพย์มีค่านี้มาให้ข้า‘

4.จงระลึกถึงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ท่าน
1).จะท่านได้“ทรัพย์สมบัติ”นี้
2).เพื่อพระองค์จะทรงดำรงพันธสัญญาซึ่งทรงปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน

5.จงฟังคำเตือน:
“ดังวันนี้ ถ้าท่าน
1).ลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และ
2).ไปติดตามพระอื่นและ
3).ปรนนิบัตินมัสการพระเหล่านั้น
ข้าพเจ้าขอยืนยันต่อท่านในวันนี้ว่า ท่านจะต้องพินาศแน่นอน!“
‭‭ ~เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭8‬:‭11‬-‭19‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก
ขอให้เรารีบเรียนรู้ที่จะจดจำในสิ่งที่ควรจำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ
1).เพื่อเรา
2).ในเรา
3).กับเรา
4).ผ่านเรา
เพื่อว่า พระเจ้าจะได้ไม่ต้องสอนบทเรียนอันแสนเจ็บปวดให้กับเรา
เพื่อช่วยเราให้ไม่มีวันลืมอีกต่อไป

#อย่าให้เราจำในสิ่งที่ควรลืม แต่กลับลืมสิ่งที่ควรจำ!

…จะดีไหม?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
5เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Apr 04, 202408:41
Ep.4 รักเพื่อนบ้าน ทำไมยากหนักหนา?

Ep.4 รักเพื่อนบ้าน ทำไมยากหนักหนา?

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(4)

รักเพื่อนบ้าน ทำไมยากหนักหนา?

”เพราะว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นนั้นสรุป(รวม)ได้เป็นคำเดียว คือว่า
จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง“
‭‭ ~กาลาเทีย‬ ‭5‬:‭14‬ ‭

Nicolas Chamfort กล่าวไว้น่าคิดว่า

“คุณต้องรักเพื่อนบ้านของคุณเหมือนรักตัวคุณเอง
นั่นคือ อย่างน้อยที่สุดก็ควรยุติธรรมโดยการรักตัวคุณเอง
ให้เหมือนคุณรักเพื่อนบ้านของคุณ!”





1.พระเจ้า บัญชาตั้งแต่ในสมัยพระคัมภีร์เดิมแล้วว่า
ให้เรารักเพื่อนบ้านเหมือนเรารักตัวเอง

”ห้ามแก้แค้นหรือผูกพยาบาทลูกหลานคนชาติเดียวกับเจ้า
แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือยาห์เวห์“
‭‭ ~เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭18‬ ‭THSV11‬‬

2.พระเยซูคริสต์ก็บัญชาให้เรารักพระเจ้า และรักเพื่อนบ้านของเราเหมือนรักตัวเอง
1).รักพระเจ้าเป็นบัญญัติ ข้อ1
2).รักเพื่อนบ้านเป็นบัญญัติ ข้อ2

“มีธรรมาจารย์คนหนึ่งเข้ามาใกล้ เมื่อได้ยินพวกเขาถกเถียงกัน และเห็นว่าพระองค์ทรงตอบพวกเขาได้ดีจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระบัญญัติข้อไหนสำคัญที่สุด?” พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “พระบัญญัติอันดับแรกคือ โอ ชนอิสราเอล จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นพระเจ้าองค์เดียว พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดความคิดของท่านและด้วยสุดกำลังของท่าน ส่วนพระบัญญัติที่สำคัญอันดับสองคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ไม่มีพระบัญญัติอื่นใดที่สำคัญยิ่งกว่าพระบัญญัติเหล่านี้” ธรรมาจารย์คนนั้นจึงทูลว่า “จริงทีเดียวท่านอาจารย์ ท่านกล่าวถูกต้อง ที่ว่า พระเจ้ามีแต่องค์เดียว นอกจากพระองค์แล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกเลย และการที่จะรักพระองค์ด้วยสุดใจ สุดความเข้าใจ และสุดกำลัง และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ก็สำคัญกว่าเครื่องเผาบูชาและของถวายทั้งสิ้น” เมื่อพระเยซูทรงเห็นว่าคนนั้นตอบสนองอย่างมีปัญญา จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านไม่ไกลจากแผ่นดินของพระเจ้า” ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครกล้าถามพระองค์อีก“
‭‭ ~มาระโก‬ ‭12‬:‭28‬-‭34‬ ‭THSV11‬‬

3.พระเยซูคริสต์บัญชาให้เรารักพ่อแม่ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเองควบคู่กันไป

”จงให้เกียรติบิดามารดาของตน และ
จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”“
‭‭ ~มัทธิว‬ ‭19‬:‭19‬ ‭THSV11‬‬

4.อาจารย์เปาโลกล่าวว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นสรุปเป็นข้อเดียวว่าจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง

”เพราะว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นนั้นสรุปได้เป็นคำเดียว คือว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง“
‭‭ ~กาลาเทีย‬ ‭5‬:‭14‬ ‭THSV11‬‬

”ข้อที่ว่า “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามฆ่าคน ห้ามลักทรัพย์ ห้ามโลภ” ทั้งพระบัญญัติอื่นๆ ก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”“
‭‭ ~โรม‬ ‭13‬:‭9‬ ‭THSV11‬‬

5.อาจารย์ยากอบกล่าวว่าการรักเพื่อนบ้านเป็นการปฏิบัติตามบัญญัติอย่างแท้จริงและเป็นการดี ”ถ้าพวกท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้าอย่างแท้จริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” พวกท่านก็ทำดี“
‭‭ ~ยากอบ‬ ‭2‬:‭8‬ ‭THSV11‬‬

อย่างไรก็ตาม อาจมีคำถามตามมาว่า

“ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้อง
1.เราต้องทำอะไร หรือ
2.เราต้องไม่ทำอะไรบ้าง?“

ในพระคัมภีร์ให้คำตอบไว้ชัดเจนว่า

1.ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่เกลียดชัง แต่ต้องตักเตือนพวกเขา

”“ห้ามเกลียดชังพี่น้องของเจ้าอยู่ในใจ แต่เจ้าจงตักเตือนเพื่อนบ้านของเจ้า
เพื่อเจ้าจะไม่ต้องรับโทษเพราะเขา“
~‭‭เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭17‬ ‭THSV11‬‬

2. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่ทำอันตรายพวกเขา

”ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย
เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน“
‭‭ ~โรม‬ ‭13‬:‭10‬ ‭THSV11‬‬ 3.ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่ลำเอียงต่อพวกเขา

”แต่ถ้าพวกท่านลำเอียง ท่านก็ทำบาป และถูกตัดสินว่าเป็นผู้ละเมิดโดยธรรมบัญญัติ“
‭‭ ~ยากอบ‬ ‭2‬:‭9‬ ‭THSV11‬‬

4. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่ดูหมิ่นพวกเขา

”คนที่ดูหมิ่นเพื่อนบ้านของตนก็เป็นคนบาป
แต่คนที่เมตตาคนยากจนก็เป็นสุข“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭14‬:‭21‬ ‭THSV11‬‬

5. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องมีสามัญสำนึกไม่ค้ำประกันในสิ่งที่เรารับผิดชอบชดใช้ไม่ได้

”คนไม่มีสามัญสำนึกย่อมให้คำปฏิญาณ
และเป็นผู้ค้ำประกันต่อหน้าเพื่อนบ้านของตน“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭17‬:‭18‬ ‭THSV11‬‬

6. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่ล่อชวนและนำพวกเขาไปในทางที่ไม่ดี

”คนโหดร้ายล่อชวนเพื่อนบ้านของเขา และนำเขาไปในทางไม่ดี“
‭‭ ~สุภาษิต‬ ‭16‬:‭29‬ ‭THSV11‬‬

7. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่บีบคั้นพวกเขา

”“ห้ามบีบคั้นเพื่อนบ้านหรือปล้นเขา ห้ามให้ค่าจ้างของลูกจ้างค้างอยู่กับเจ้าจนถึงรุ่งเช้า“
‭‭ ~เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭13‬ ‭THSV11‬‬

8. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องพิพากษาพวกเขาอย่างยุติธรรมด้วยความเป็นธรรม

”“ห้ามพิพากษาด้วยความอยุติธรรม ห้ามลำเอียงเข้าข้างคนจนหรือ
เห็นแก่หน้าผู้เป็นใหญ่ แต่เจ้าจงพิพากษาเพื่อนบ้านของเจ้าด้วยความชอบธรรม“
‭‭ ~เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭15‬ ‭THSV11‬‬ 9. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่ส่อเสียด หรือ ปองร้ายต่อชีวิตของพวกเขา

”ห้ามเทียวขึ้นเทียวล่องคอยส่อเสียดท่ามกลางชนชาติของตน
และห้ามปองร้ายต่อชีวิตของเพื่อนบ้าน เราคือยาห์เวห์“
‭‭ ~เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭16‬ ‭THSV11‬‬

10. ถ้าเรารักเพื่อนบ้าน เราต้องไม่แก้แค้นหรือผูกพยาบาทเขาหรือลูกหลานของพวกเขา

”ห้ามแก้แค้นหรือผูกพยาบาทลูกหลานคนชาติเดียวกับเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือยาห์เวห์“
‭‭ ~เลวีนิติ‬ ‭19‬:‭18‬ ‭THSV11‬‬
Apr 03, 202410:38
Ep.921 รู้ป่าวเราลูกใคร

Ep.921 รู้ป่าวเราลูกใคร

พระธรรมนำชีวิต
ตอน รู้ป่าวเราลูกใคร? Ep.921

ขอบพระคุณพระเจ้าที่เช้าวันนี้ ผมได้มีโอกาสไปแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้ากับน้องๆอนุชนกว่า 500 คนที่ขอนแก่น เมื่อแบ่งปันเสร็จแล้วผมจึงกลับมาทำพระธรรมนำชีวิต สิ่งที่ผมแบ่งปันวันนี้เป็นส่วนหนึ่งจากที่ผมแบ่งปันในเช้านี้กับน้องๆอนุชน ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าเมตตาเราให้เราปราศจากความกลัวทุกอย่าง เพราะว่าเรารู้ว่า เราเป็นลูกใคร?

”เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้นที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อให้เราได้รับฐานะเป็นบุตร และเพราะท่านทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว พระองค์จึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์ เข้ามาในใจของเราร้องว่า
“อับบา (พ่อ)” เพราะฉะนั้น โดยพระเจ้าท่านจึงไม่ใช่ทาสอีกต่อไปแต่เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตรแล้ว ท่านก็เป็นทายาท“
กาลาเทีย 4:5-7

คำว่า เป็นบุตร ในฉบับ NIV ใช้คำว่า God’s child ผมชอบคำนี้ นอกจากแปลได้ว่าเป็นลูกของพระเจ้า ผมแปลแบบผมว่า เราเป็นเด็กของพระเจ้า ในทางผู้ทรงอิทธิพลเราจะได้ยินเขาถามกันเสมอว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กของใคร ส่วนลูกๆของมีอิทธิพลมักจะภูมิใจในความยิ่งใหญ่ ในความทรงอิทธิพลของพ่ออย่างมาก และมักจะชอบถามคนอื่นที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเสมอว่า นายรู้ป่าวเราลูกใคร มึอีกเพลงนึงที่ผมฟังและใช้นมัสการประจำซึ่งมาจากพระธรรมกาลาเทียนี้ เนื้อท่อนร้องรับบอกว่า I'm no longer a slave to fear. I am a child of God แปลว่า เราจึงไม่เป็นทาสความกลัวอีกต่อไป เพราะเราเป็นลูกของพระเจ้า วันนี้เราต้องรู้ว่าเราเป็นลูกใคร พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่สูงสุดแบบไม่มีใครต้านทานพระองค์ได้ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกลัว

”อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า เพื่อช่วยกู้เจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ“
เยเรมีย์‬ ‭1‬:‭8‬ ‭

เราอยู่ในฐานะลูกของพระเจ้า พ่อไม่เคยปล่อยลูกไว้ให้โดดเดี่ยว พระเจ้าสัญญาว่า พระเจ้าผู้เป็นพ่อของเราทรงอยู่ด้วยกับเราและจะช่วยเราเสมอ พระเจ้าได้กำหนดทุกอย่างที่เป็นเราไว้แล้ว ตั้งแต่ก่อนเราจะอยู่ในท้องแม่ของเราอีก สิ่งที่เราต้องทำคือ ก้าวข้ามความขลาดกลัว และก้าวข้ามเหตุผลทุกอย่างของเรา ด้วยการเชื่อฟังทำตามทุกประการเท่านั้น ไม่ต้องกลัวทุกอย่างที่ขวางอยู่ข้างหน้า เพราะเราเป็นลูกของพระเจ้า เป็นเด็กของพระองค์ ให้เราท่องเอาไว้เสมอในใจว่า เราเป็นลูกใคร แต่ไม่ต้องไปถามคนอื่นหรอกนะว่า รู้ไหมว่าเราเป็นลูกใคร แต่ให้ท่องเอาไว้ในใจว่าเราเป็นลูกของพระเจ้า เราจึงไม่ต้องกลัวอะไร หากเรายืนอยู่ อาศัยอยู่ในพระเจ้าผู้เป็นพ่อที่รักเราที่สุด ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกลัวอะไร
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 03, 202407:54
Ep.3 อย่าถือว่าตัวเองฉลาด

Ep.3 อย่าถือว่าตัวเองฉลาด

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(3)

อย่าถือว่าตัวเองฉลาด!

”จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใฝ่สูง
แต่ยอมสมาคมกับคนต่ำต้อย
อย่าถือว่าตัวฉลาด“
‭‭~โรม‬ ‭12‬:‭16‬ ‭THSV11‬‬
”Be friendly with everyone. Don't be proud and
feel that you know more than others.
Make friends with ordinary people.“
‭‭ ~Romans‬ ‭12‬:‭16‬ ‭CEV‬‬

คุณตอบสมการต่อไปนี้ได้หรือไม่ว่า และหมายถึงอะไร?

1+1=1
3+4=1
5+7=1
6+18=1
~~~~~~~
(จงตอบก่อนดูเฉลย!)

หลังจากคุณตอบแล้ว
ลองเอามาเปรียบดูกับเฉลยว่า
เหมือนกันหรือ แตกต่างกัน หรือไม่ อย่างไร?

เฉลย
1+1 =1
(หญิง1+ชาย1= 1ครอบครัว หรือ
ส้ม1ซีก+ส้ม1ซีก = ส้ม1ลูก)

3+4 =1
(3วัน +4วัน =1สัปดาห์)

5+7=1
(5เดือน + 7เดือน =1ปี)

6+18=1
(6ชั่วโมง+18ชั่วโมง = 1วัน

เราอาจมี วิธีคิด วิธีมองที่แตกต่างกัน
แต่อย่าให้เราคิดว่า เราฉลาดกว่า หรือรู้มากกว่าคนอื่น
จนตัดสินคนอื่นที่มองแตกต่างจากเรา ว่า เขาผิด โง่หรือแย่กว่าเรา
เพราะเป็นไปได้ว่า
เราอาจถูก และ เขาก็อาจถูกเช่นกัน เพียงแค่เรามองจากคนละมุมมอง!

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า เรา
1).จะมอง หรือ
2).จะคิด เหมือนกันหรือไม่
แต่ก็ขอให้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอยู่เสมอก็แล้วกัน

อย่าให้เราสรุปว่าตัวเราฉลาด แต่มองเห็นคนอื่นนั้นโง่และผิด!

เป็นการดี ที่เราจะทำตามที่พระวจนะของพระเจ้าแนะนำไว้ในวันนี้ที่ ว่า
1.ให้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน =อยู่ด้วยกันด้วยความกลมเกลียว
2.ให้เราไม่ใฝ่สูง = ไม่หยิ่งผยองไม่ถือตัว
3.ให้เรายอมสมาคมกับคนต่ำต้อย = เต็มใจคบหาสมาคมกับคนที่มีฐานะต่ำกว่า
4.ให้เราไม่ถือว่าตัวฉลาดกว่าคนอื่น = ไม่ทะนงตนคิดว่าตัวเองฉลาด

เราควรขอให้พระเจ้าช่วยเราให้มี
1).ความถ่อมใจ และ
2).ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ตามแบบอย่างที่พระเยซูคริสต์ ได้วางไว้

”ขอพระเจ้าผู้เป็นแหล่งความทรหดอดทนและการหนุนใจ
ทรงช่วยให้ท่านทั้งหลายเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดย(หรือตามแบบอย่างของ)พระเยซูคริสต์!“
‭‭ ~โรม‬ ‭15‬:‭5‬ ‭THSV11‬‬

เพราะการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของเรา จะทำให้พระเจ้า
1.พอพระทัย
2.บังคับบัญชา
พระพรของพระองค์ให้เทลงมาเหนือพวกเราได้ อย่างที่สดุดีบทที่ 133 เขียนได้ว่า

”เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตยืนยาวเป็นนิตย์!“
‭‭ ~สดุดี‬ ‭133‬:‭3‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก วันนี้
1.คุณกำลังรักษาและส่งเสริม
1).ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือ
2).ความเป็นเอกภาพขึ้นในชุมชนที่คุณอยู่
ด้วยความถ่อมใจ หรือว่า
2.คุณกำลังก่อเกิด
1).ความแตกร้าว และ
2).การแตกแยกขึ้น ในท่ามกลางพวกคุณเองเพียง
เพราะคุณคิดว่า ตัวคุณเอง
ก.ฉลาดกว่า และ
ข.ถูกต้องมากกว่าคนอื่น
ด้วยความหยิ่งยโส อยู่หรือไม่?

ขอให้เราฟังคำเตือนที่ว่า

“ มีคำสาปแช่งมากมายที่มาพร้อมกับความหยิ่งยโส และ
มีพระพรมากหลายที่มาพร้อมกับความถ่อมใจ!”
(With pride, there are many curses.
With humility, there come many blessings.
~Ezra Taft Benson

…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
3เมษายน 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

Apr 03, 202411:04
Ep.920 ยังไม่พร้อม

Ep.920 ยังไม่พร้อม

พระธรรมนำชีวิต
ตอน ยังไม่พร้อม Ep.920

ช่วงนี้ขอข้ามพระธรรมกันดารวิถีไปก่อน สิ่งที่ผมนำมาแบ่งปันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมที่จะแบ่งปันในค่ายอนุชน

”พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงข้าพเจ้าว่า “เราได้รู้จักเจ้าก่อนที่เราได้ก่อร่างตัวเจ้าขึ้นในครรภ์ และก่อนที่เจ้าคลอดจากครรภ์ เราก็ได้กำหนดตัวเจ้าไว้ เราได้แต่งตั้งเจ้าเป็นผู้เผยพระวจนะแก่บรรดาประชาชาติ”
‭‭เยเรมีย์‬ ‭1‬:‭4‬-‭5‬ ‭

การถวายตัวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทรงเรียก พระธรรมเยเรมีย์ทำให้เราเห็นถึงความสัพพัญญูความรอบรู้ของพระเจ้า พระเจ้าทรงรู้จักคนที่พระองค์เรียกและเลือกอย่างดี เมื่อพระเจ้าเรียกและเลือกแล้วพระเจ้าทรงมีงานที่วางเอาไว้ให้คนที่ถูกเรียกนั้นทำแน่นอน

”แล้วข้าพเจ้าก็กราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ดูเถิด ข้าพระองค์พูดไม่เป็นเพราะข้าพระองค์เป็นเด็ก” เยเรมีย์‬ ‭1‬:‭6‬ ‭

สิ่งที่เรามักจะทำเสมอคือเราจะมีเหตุผลของเราที่ไม่พร้อมตอบสนองต่อการทรงเรียก สำหรับท่านเยเรมีย์คือ ผมพูดไม่เก่งและยังเป็นแค่เด็กอยู่ แล้วสำหรับพวกเราละมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตอบสนองต่อการทรงเรียก การเลือกและงานที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้เราทำ

”แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อย่าพูดว่าเจ้าเป็นเด็ก เพราะเจ้าต้องไปหาทุกคนที่เราใช้ให้เจ้าไป และทุกสิ่งที่เราบัญชาเจ้า เจ้าต้องพูด อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า เพื่อช่วยกู้เจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ“
เยเรมีย์‬ ‭1‬:‭7‬-‭8‬

พระเจ้าทรงรู้และเข้าใจในทุกเหตุผล พระเจ้าทรงให้กำลังใจท่านเยเรมีย์และบอกว่า อย่าพูดว่าเป็นเพียงเด็ก และไม่ต้องกลัวที่จะไม่มีคำพูด เพราะท่านเยเรมีย์จะพูดสิ่งที่พระเจ้าบอกเท่านั้น พระเจ้าสัญญากับเยเรมีย์ว่าจะสถิตอยู่ด้วยกับเขาเพื่อช่วยเขา ดังนั้นไม่ต้องกลัว

”แล้วพระยาห์เวห์เหยียดพระหัตถ์สัมผัสปากข้าพเจ้า และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “นี่แน่ะ เราเอาถ้อยคำของเราใส่ในปากของเจ้า“
เยเรมีย์‬ ‭1‬:‭9‬ ‭

มากไปกว่าถ้อยคำที่ให้กำลังใจ พระเจ้าทรงทำกิจของพระองค์โดยใส่ถ้อยคำของพระองค์ไว้ในปากของเยเรมีย์เลย ขอให้พวกเรารู้ว่า พระเจ้าทรงรู้จักเราอย่างดี และเมื่อพระองค์ทรงเรียกเรา เลือกเรา ทรงมีงานวางไว้ให้เราทำแน่นอน พระเจ้าจะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นที่ต้องใช้ในงานนั้นๆไว้พร้อมแล้ว และในทุกเหตุผลที่เรารู้สึกว่าเราไม่พร้อม พระเจ้าทรงรู้และพระองค์ทรงเตรียมสิ่งเหล่านั้นไว้ให้เราแล้ว ขอพวกเราอย่ากลัว เพราะพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 02, 202406:48
Ep.2 เรื่อง S H O C K!

Ep.2 เรื่อง S H O C K!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(2) เรื่อง S H O C K! ”เพราะมนุษย์ไม่รู้วาระของตน ปลาติดอยู่ในอวนที่เลวร้ายฉันใด และนกถูกดักติดอยู่ในบ่วงแร้วฉันใด บรรดามนุษย์ก็ถูกวาระอันเลวร้ายนั้น ดักจับโดยฉับพลันเหมือนกันฉันนั้น“ ‭‭ ~ปัญญาจารย์‬ ‭9‬:‭12‬ ‭THSV11‬‬ “ช็อก”(SHOCK ) หรือ ที่คนมักเขียนกันมายาวนานว่า “ช็อค” หมายความถึง 1.น. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรงหรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที 2. สิ้นสติหรือหัวใจหยุดทันที เพราะ การตกใจหรือเหตุร้ายแรงอย่างอื่น ปัญญาจารย์ บอกเราว่า เรื่อง SHOCK หรือ วาระอันร้าย หรือคราวเคราะห์ อาจโถมเข้าใส่ หรือ อาจเกิดขึ้นกับเรา และทุกคน แบบไม่รู้ล่วงหน้า หรือไม่ทันรู้ตัว เหมือน 1.ปลาติดอยู่ในอวน หรือ ในร่างแห ที่เลวร้าย และ 2.นกถูกดักติดกับดัก หรือ ติดอยู่ในบ่วงแร้ว โดยไม่นึกไม่ฝัน คนเราทุกคน ก็อาจจะเจอเรื่องช็อกจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง เช่นกัน อาทิ ในเรื่อง S ~Spiritual (เรื่องจิตวิญญาณ) คือ อยู่ๆก็มีเรื่องกระทบกระแทกทางด้านจิตวิญญาณอย่างกะทันหัน บางทีเป็นเรื่อง ที่เราผิดหวังเสียใจอย่างรุนแรงกับการกระทำของผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณ หรือ คนใกล้ชิดตัวเรา(หรือแม้แต่ตัวเราเอง)ที่ประพฤติผิดเพี้ยนไปจากที่เคยเป็น หรือ สั่งสอนออกนอกวิถีของพระคัมภีร์ หรือถูกเปิดโปงพฤติกรรมด้านมืดหรือด้านที่ทำผิด ที่ทำให้เหล่าผู้ศรัทธาคนอื่นๆเกิดอาการช็อก H ~Health(เรื่องสุขภาพ) คือ อยู่อยู่ก็พบอาการเจ็บป่วยอย่างไม่คาดฝัน เช่นเป็นเนื้องอกบ้าง เป็นมะเร็งสารพัดชนิดบ้าง เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ เส้นเลือดที่ไปที่สมองอุดตัน หรือติดเชื้อโรคบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ต่างๆ ไวรัสตับ หรือจะเป็นโรคที่โด่งดังน่ากลัว อย่างโควิด หรืออะไรอื่นๆที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับตัวเราเอง กับคนในบ้าน หรือ กับคนอื่นๆที่เรารัก หรือ ถ้าหนักหนาสาหัส ก็อาจถึงขั้นสูญเสียชีวิตไปและนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ตัวเราเป็นอย่างมาก O~Occupation (เรื่องการงานอาชีพ) คือ อยู่ๆ ก็ได้ข่าวร้ายเกี่ยวกับอาชีพการงานของเราแบบทำให้เราสะดุ้งตกใจ เช่น ถูกปลดออกจากงาน บริษัทหรือที่ทำงานปิดกิจการ หรือ ธุรกิจที่เราทำอยู่ประสบภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง จนเจ๊ง หรือ ถูกหุ้นส่วน และคนงานที่ไว้วางใจ ร่วมกันทรยศหักหลังหรือโกง จนเราแทบล้มทั้งยืน C~Casualty (เรื่องอุบัติเหตุและอุบัติภัย) คือ อยู่ๆก็ได้ยินข่าวร้ายว่า คนที่เรารัก หรือสนิทสนมคุ้นเคยกันดี ประสบภัยอุบัติเหตุ หรือภัยบางอย่าง(ภัยจลาจล สงคราม ฯลฯ)อย่างไม่คาดคิด จนเสียหายหรือสูญเสียครั้งใหญ่หรือถึงขั้น เสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเป็นคนในครอบครัวของเราที่ใกล้ชิดกันมาก ก็อาจยิ่งสะเทือนใจอย่างรุนแรง แบบกะทันหัน จนออกอาการสั่นกระตุก สูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะหนึ่งได้ทีเดียว K~ kids & Kinship (เรื่องของลูกๆหรือ ญาติมิตร) คือ อยู่ๆ ก็ได้รับข่าวร้าย หรือ ข่าวชวนตกใจ เกี่ยวกับลูกๆหรือญาติมิตร ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ผิดแปลกผิดเพี้ยนไปจากที่เคยเป็น ออกนอกทาง ไม่ว่าจะทางศาสนา สังคม เพศ เศรษฐกิจ หรือการเมือง หรือ เบาๆ ก็อาจเป็นปัญหาพฤติกรรมเรื่องการเรียนของลูกๆ เช่น หนีเรียน ไม่สอบ สอบตก เกรดต่ำ โกงการสอบ หรือ ทะเลาะชกต่อยหรือทำร้ายคนอื่น หรือ ถูกคนอื่นทำร้าย หรือ ทางด้านจิตวิญาณ ที่ลูกๆหรือคนในวงศาคณาญาติ ทิ้งทางของพระเจ้าไป หรือทางเรื่องความรักและครอบครัวที่ลูกอกหัก รักคุด หรือ หย่าร้าง หรือ ลูกหรือ ญาติมิตรของเราอาจเสียชีวิตด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง พี่น้องที่รัก ไม่จะเป็นเรื่อง SHOCK จากสาเหตุใด ก็ล้วนสร้างความเจ็บปวดให้แก่เราได้ทั้งสิ้น ดังนั้น เวลา เราได้ยิน ได้ทราบ หรือ ได้ประสบเรื่อง SHOCK เหล่านี้ ขอให้เรารับมือกับเรื่องช็อก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ 1.ตั้งสติ ~ คือควบคุมสติของตัวเราเอง ให้ตระหนักรู้ถึงสภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ 1).สามารถแยกแยะและ 2).สามารถตอบสนอง ต่อ สิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบตัวเราได้อย่างเหมาะสม 2.ตั้งหลัก ~คือเตรียมพร้อมรับมือ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือที่เผชิญอยู่ได้อย่างเหมาะสม 3.ตั้งเป้า ~คือ กำหนดจุดมุ่งหมาย หรือ ทิศทางที่จะเดินหน้าต่อไป ให้ลดความรุนแรงของ ผลกระทบที่เกิดขึ้นหรือ และสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นผลดี และถวายเกียรติแด่พระเจ้า 4.ตั้งต้น ~คือ เริ่มลงมือทำในสิ่งที่ตั้งเป้าที่จะทำ อย่างรอบคอบและขยันขันแข็ง 5.ตั้งใจ ~คือ กระทำสิ่งที่ตั้งต้นทำต่อไป อย่างมุ่งมั่น จนกว่าจะก้าวหน้า 6.ตั้งหน้าตั้งตา ~คือ มุ่งมั่นทำตามที่ ตั้งต้น อย่างจริงจัง จนกว่าจะสำเร็จตามเป้าหมาย 7.ตั้งมั่น ~คือ ปักหลักอย่างมั่นคง พร้อมรับมือกับ เรื่องช็อกใหม่ๆ และพร้อมทำสิ่งที่ตั้งต้น และตั้งใจไว้ต่อไป ไม่หยุด จนกว่าเราจะบรรลุตามเป้าหมาย สามารถเปลี่ยนเรื่อง SHOCK ให้กลายเป็นเรื่อง ที่ทำให้ชีวิตของเรา ได้รับความสุขใจอย่างน่าพึงพอใจ(SATISFYING) กลับคืนมา อย่างมีความหวัง ความเชื่อ และความรัก เหมือนดังที่ Maya Angelou แนะนำไว้ว่า “จงหวังในสิ่งที่ดีที่สุด เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ชีวิตเป็นเรื่องชวนช็อก แต่คุณต้องไม่ออกอาการถูกทำให้ช็อก เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะดูแย่แค่ไหน มันก็อาจแย่ลงมากกว่านั้นอีก และไม่ว่า สถานการณ์จะดีแค่ไหนอยู่แล้ว มันก็อาจดีมากยิ่งขึ้นไปอีกได้!” ดังนั้น เมื่อเรา เจอเรื่อง ”ช็อก“(SHOCK) ก็ขอให้เรา 1.แสวงหาพระเจ้า 2.ฝากความหวังของเรา ไว้กับพระเจ้าผู้ทรงรักเราด้วยความไว้วางใจในพระองค์ 3.ดำเนินชีวิตต่อไป ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ อันเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับชีวิตของเรา เพื่อว่า พระองค์จะประทาน “ผลดี”แห่ง“ความน่าพึงพอใจ”(SATISFACTION)ให้แก่เรากลับคืนมา สู่ชีวิตของเรา
Apr 01, 202413:35
Ep.919 พัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ในพระเยซู

Ep.919 พัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ในพระเยซู

พระธรรมนำชีวิต
ตอน พัฒนาความเป็นเลิศในพระเยซู Ep.919

เช้าวันนี้ผมขับรถเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นวิทยากรในค่ายอนุชนที่จัดขึ้นโดย ศ.จ.นิพนธ์ เหลืองเงิน โดยใช้หัวข้อว่า ”ถวายตัว” เมื่อคิดถึงคำนี้ทำให้ผมคิดถึง

”ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม“
‭‭โรม‬ ‭12‬:‭1‬-‭2‬ ‭THSV11‬‬

การนมัสการที่พระเจ้าพอพระทัยไม่ใช่แค่การร้องเพลง แต่เป็นการถวายร่างกายที่บริสุทธิ์ที่พระเยซูไถ่ให้แล้ว แม้ว่าเรายังชีวิตอยู่แต่ร่างกายของเราถือเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์ สำหรับทุกคนที่เป็นผู้เชื่อในพระเยซู รวมถึงทุกๆทีมรับใช้ ยิ่งทีมนมัสการที่มีความต้องการความเป็นเลิศในด้านทักษะในงานปรนนิบัติรับใช้นั้น ผมอยากให้กำลังเราทุกคนว่าให้เรารักษาสภาพความบริสุทธิ์ที่พระเจ้าชอบนั้นไว้เสมอ พร้อมๆกับพัฒนาความเป็นเลิศในทุกทักษะในงานรับใช้ไปด้วย ชีวิตและงานรับใช้ของเราจึงจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า พฤติกรรมจะเป็นเครื่องมือชี้วัดว่าชีวิตของเรายอมรับการเปลี่ยนแปลงโดยพระเยซูหรือเปล่า ถ้ายังเราจะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าไม่ได้เลย
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Apr 01, 202406:02
Ep.10 แสวงหาพระเจ้า… นี่ทำกันยังไงอะฮะ ‘จารย์

Ep.10 แสวงหาพระเจ้า… นี่ทำกันยังไงอะฮะ ‘จารย์

แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้”
‭‭มัทธิว‬ ‭6‬:‭33‬ ‭THSV11‬‬ แล้ววิธีแสวงหานี่ทำอย่างไรครับ อาจารย์?
Apr 01, 202415:12
Ep.1 จงระวังเรื่องชวนช๊อค!

Ep.1 จงระวังเรื่องชวนช๊อค!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(1)

จงระวังเรื่องชวนช็อค!

”ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น
โยบไม่ได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า“
‭‭ ~โยบ‬ ‭1‬:‭22‬ ‭THSV11‬‬
”Through all this Job did not sin nor did he blame God.“
‭‭ ~Job‬ ‭1‬:‭22‬ ‭AMP‬‬


“ช็อค”(shock) หมายความถึง
“การกระทบกระแทกอย่างกะทันหัน,
อาการสะเทือน, อาการสะเทือนทางใจอย่างกะทันหัน,
อาการตื่นตะลึง, ความสะดุ้งตกใจ,
อาการสั่นกระตุก, อาการเป็นลม, อาการแน่นิ่งไปอย่างกระทันหัน”

ที่น่ากลัว ก็คือเรื่องช็อค อาจเกิดขึ้นภายในครอบครัวได้ทุกเวลา
และนี่จะเป็นเรื่องช็อคที่ส่งผลกระทบจิตใจในระดับที่ลึกมากที่สุดในชีวิต
เหมือนดังที่ บิลลี่ เกรแฮม กล่าวไว้ว่า

“ไม่ว่าคุณคิดว่าคุณได้เตรียมตัวมาดีแล้วอย่างไรเกี่ยวกับการตายของคนที่คุณรัก
แต่เมื่อมันเกิดขึ้น มันก็ยังเป็นเรื่องซ็อค และยังคงเจ็บปวดรวดร้าวบาดลึกอยู่ดี!”
(No matter how prepared you think you are for the death of a loved one,
it still comes as a shock, and it still hurts very deeply.)
~Billy Graham

ในพระคัมภีร์มีเรื่องราวชวนช็อคอยู่หลายหลายเรื่อง
แต่เรื่องหนึ่งที่ขอนำมาแบ่งปันในวันนี้ คือ
ข่าวร้ายของครอบครัวที่ช็อค
1.จิตใจ และ
2.ชีวิตของโยบ แบบแสนสาหัส
ที่เหมือนถูก
1).สึนามิซัดกระหน่ำแบบไม่ทันตั้งตัว หรือ
2).แผ่นดินที่ไหวฉับพลัน และตามมาด้วย
3).after-shock ที่น่าหวาดหวั่นขวัญแขวน
โดยมีเรื่องราวเป็นดังนี้

1.วันหนึ่ง
ขณะที่บุตรชายหญิงของโยบกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโต
ของเขา มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า
“ฝูงวัวกำลังไถนาอยู่ และ
ฝูงลาตัวเมียกำลังกินหญ้าอยู่ข้างๆ
คนเสบาก็มาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ
…ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
2.ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า
“ไฟของพระเจ้าตกจากฟ้าไหม้แกะกับคนใช้ และเผาผลาญหมด และ
…ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
3.ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า
“ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองเข้าปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และ
…ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
4.ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า
“ลูกชายกับลูกสาวของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา
และดูเถิด มีพายุข้ามถิ่นทุรกันดารมาปะทะบ้านทั้งสี่มุมจนพังลงทับคนหนุ่มสาว และ
พวกเขาก็ตาย
…ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”“
‭‭ ~โยบ‬ ‭1‬:‭13‬-‭19‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก ถ้าคุณเป็นโยบ และได้ยินข่าวร้าย ชวนช็อคที่มาเป็นชุด
เหมือนคลื่นหลายลูกโหมซัดกระหน่ำติดต่อกันแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้
คุณจะรับมือกับมันอย่างไร?

ขอให้เราดูมาปฏิกิริยาตอบสนองของโยบที่ต่อเรื่องช็อคที่เกิดขึ้นกับท่าน
ว่าท่านรับมืออย่างไร?

”แล้วโยบก็
1.ลุกขึ้น
2.ฉีกเสื้อคลุมของตน
3.โกนศีรษะ (ไว้ทุกข์ ~ปฐก.37:34;อสย.15:2)
4.กราบลงถึงดินนมัสการ(พระเจ้า) ท่านว่า
“ 1).ข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และ
2).ข้าจะกลับไป(จากไป)ตัวเปล่า (ปญจ.5:15;1ทธ.6:7)
3).พระยาห์เวห์ประทาน และ
4).พระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย (นรธ.1:21;1ซมอ.2:7)
5).สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์”
(วนฉ.10:15;โยบ2:10;ปญจ.7:14;ยรม.40:2;1ทธ.5:18;ยก.5:11;อฟ.5:21)

…ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น
โยบไม่ได้
1.ทำบาป หรือ
2.กล่าวโทษพระเจ้า!“
(โยบ2:10;สดด.39:1;สภษ.10:19;13:3;อสย.53:7;รม.9:20)
~โยบ‬ ‭1‬:‭20‬-‭22‬ ‭THSV11‬‬

พี่น้องที่รัก
คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า บ่อยครั้ง

“ปัญหาไม่ใช่ปัญหา
แต่ปัญหาคือ
1.ทัศนคติของคุณเกี่ยวกับปัญหานั้น และ
2.วิถีที่คุณตอบสนองต่อปัญหานั้น!”
(The problem is not the problem,
the problem is your attitude about the problem
and your reaction toward the problem.)

ดังนั้น พี่น้องที่รัก
ไม่ว่า คุณจะจัดการกับปัญหาที่ทำให้คุณช็อคนั้นอย่างไร
แต่ขอให้คุณตรวจแน่ใจเสมอว่า
วิถีคิด วิถีพูด และ วิถีที่คุณแสดงออกมา นั้นจะ
1.ไม่ทำบาป
2.ไม่กล่าวโทษพระเจ้า และ
3.ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์

เพราะถ้าคุณรักพระเจ้า ตื่นตัว และระมัดระวังตัวด้วยท่าทีเช่นนี้
ก็เชื่อได้ว่า ไม่ว่าคุณจะเจอะเจอเรื่องช็อค อีกกี่เรื่อง กี่ที หรือกี่ครั้ง
คุณก็จะไม่หวั่นไหว และ ผ่านไปได้
และแน่ใจว่า พระเจ้าจะให้เกิดผลดีตามมาในบั้นปลาย เหมือนดังพระวจนะที่ว่า

”เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกัน
ก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า
คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์!“
‭‭ ~โรม‬ ‭8‬:‭28‬ ‭THSV11‬‬
”And we know that in all things God works for the good of those who love him,
who have been called according to his purpose.“
‭‭ ~Romans‬ ‭8‬:‭28‬ ‭NIV เห็นด้วยไหมครับ?
Mar 31, 202410:57
Ep.916 วันอีสเตอร์กับนักวิทยาศาสตร์

Ep.916 วันอีสเตอร์กับนักวิทยาศาสตร์

พระธรรมนำชีวิต
ตอน วันอีสเตอร์กับนักวิทยาศาสตร์ Ep.918

ขออภัยที่วันนี้มาพบกันในยามค่ำคืน เนื่องจากวันนี้มีภารกิจนมัสการพิเศษในวันอีสเตอร์แต่เช้า และผมเองเป็นผู้แบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าที่คริสตจักร คำแบ่งปันของผมในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมใช้แบ่งปันที่คริสตจักรเขาหินซ้อน เป็นเรื่องของสาวกคนหนึ่งที่มีชื่อว่าโธมัส เขาเป็นคนหนึ่งที่เกือบจะตกขบวนเพราะเขาไม่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนสาวกคนอื่นๆ เขาจึงไม่ได้พบกับพระเยซูพร้อมกับสาวกอีก 10 คนที่เหลือ ซึ่งทุกคนก็ยืนยันกับเขาว่าพระเยซูทรงฟื้นจากความตายแล้ว

”สาวกคนอื่นๆ จึงบอกโธมัสว่า “เราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่โธมัสตอบพวกเขาว่า “ถ้าข้าไม่เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ของพระองค์ และไม่ได้เอานิ้วของข้าแยงเข้าไปที่รอยตะปูนั้น และไม่ได้เอามือของข้าแยงเข้าไปที่สีข้างของพระองค์แล้ว ข้าจะไม่เชื่อเลย” ยอห์น‬ ‭20‬:‭25‬ ‭

สำหรับบางคนประสบการณ์จากคนอื่นอาจจะไม่พอที่จะยืนยันว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ผู้ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย สิ่งที่โธมัส พูดออกมา คือเขาต้องการจะพิสูจน์ให้เห็นกับตา เขาต้องได้สัมผัสด้วยมือหรือกายภาพ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะไม่เชื่อ ผมถึงใช้ชื่อหัวข้อวันนี้ว่าอีสเตอร์กับนักวิทยาศาสตร์ หลายครั้งเราเองก็ไม่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูด เราเองต้องมีประสบการณ์กับพระเจ้า ผมจึงชอบพูดกับพี่น้องที่คริสตจักร และพี่น้องผู้เชื่อโดยเฉพาะเด็กน้องๆวัยรุ่นเสมอว่าให้ทุกคนอธิษฐานขอกับพระเจ้าที่น้องๆจะมีประสบการณ์กับพระเจ้า เพื่อให้พระเยซูทรงพิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของน้องเองจริงๆ ไม่ใช่เพียงพระเจ้าที่ลุงป้า น้าอา ยัดเยียดเรื่องราวให้เขารู้จัก หากเขาได้พิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าของเขาจริงๆ เขาจะเชื่อวางใจในพระเยซูแน่นอน

”เมื่อผ่านไปแปดวันแล้ว พวกสาวกของพระองค์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีกและโธมัสอยู่กับพวกเขาด้วย ประตูก็ปิดแล้ว แต่พระเยซูเสด็จเข้ามาและทรงยืนอยู่ท่ามกลางเขาตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลาย” แล้วพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “เอานิ้วของท่านแยงที่นี่ และดูที่มือของเรา ยื่นมือของท่านออกมาคลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยเลย แต่จงเชื่อ”“
‭‭ยอห์น‬ ‭20‬:‭26‬-‭27‬ ‭

พระเยซูทรงรู้และเข้าใจทุกคน ว่าใครเป็นอย่างไร ทรงรู้ถึงความต้องการของทุกคนว่าใครต้องการอะไร พระเยซูทรงรู้ว่าโธมัสสงสัย เมื่อพระองค์ปรากฏพระกายของพระองค์กับสาวกอีกครั้งในขณะที่โธมัสอยู่กับทุกคน พระเยซูทรงเรียกโธมัสให้มาเพื่อให้พิสูจน์ว่า พระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากความตายแล้ว

”โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์” ยอห์น‬ ‭20‬:‭28‬ ‭

ขอบคุณพระเจ้าที่โธมัสไม่ต้องถึงกับต้องเอามือไปคลำ เพียงแต่เขาเห็นพระเยซู เขาก็เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สามารถฟื้นขึ้นจากความตายได้

”พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เพราะท่านเห็นเราท่านจึงเชื่อหรือ? คนที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข”
ยอห์น‬ ‭20‬:‭29‬ ‭

พระเยซูพูดกับโธมัส เพราะท่านเห็นพระเยซูโธมัสจึงเชื่อ แต่สำหรับพวกเราคนที่ไม่เห็นพระองค์แต่เชื่อพระเยซูสัญญาว่าเราจะมีความสุข สำหรับลูกหลานของเราที่ยังไม่มีประสบการณ์กับพระเยซู ผมให้กำลังใจพวกเราที่เราทุกคนจะเล่าเรื่องราวจากพระวจนะของพระองค์ให้พวกเขาได้รู้เรื่องราวของพระเยซู แต่พวกเราก็ต้องไม่ลืมที่จะอธิษฐานเผื่อเขา ขอให้พวกเขามีประสบการณ์กับพระเยซูเองจริงๆ เพื่อพวกเขาจะได้มีพระเยซูเป็นพระเจ้าของเขาเอง จากประสบการณ์ของผมที่ผมได้พบกับพระเยซู ผมได้รับความช่วยเหลือจากพระองค์ในเวลายากลำบาก นั่นทำให้ผมพึ่งพาพระองค์ พระเยซูจึงไม่ใช่เพียงพระเจ้าของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายลุงป้า น้าอาของผม แต่เพราะผมมีประสบการณ์กับพระเยซูเอง พระเยซูจึงเป็นพระเจ้าของผมเอง
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Mar 31, 202409:59
Ep.365 คนไม่กลัวมะเร็ง

Ep.365 คนไม่กลัวมะเร็ง

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่3(365)

คนไม่กลัวมะเร็ง!

”พระเยซูตรัสว่า
“เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย
คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้ว่าเขาจะตายไป!““
‭‭ ~ยอห์น‬ ‭11‬:‭25‬ ‭THSV11‬‬
”Jesus said to her,
“I am the resurrection and the life.
Whoever believes in me, though he die,
yet shall he live,“
‭‭ ~John‬ ‭11‬:‭25‬ ‭ESV‬‬

คนที่มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์
1.ไม่ชอบมะเร็ง
2.ไม่ชอบการพรากจาก
แต่ก็
1.ไม่กลัวมะเร็ง และ
2.ไม่กลัวความตาย

เพราะคริสเตียนเชื่อว่า พระคริสต์ทรงรับกรรมบาปแทนเรา
โดยการยอมสิ้นพระชนม์เป็นค่าไถ่โทษบาปเราบนกางเขนแล้ว
และพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากตาย ในวันที่3 ใช้เวลากับพวกสาวกก่อนเสด็จขึ้นสู่สวรรค์
พระองค์สัญญาว่า จะเสด็จกลับมารับเราอีก ไม่ว่า ในเวลานั้น เรา
1.ยังเป็นอยู่ หรือ
2.ตายไปแล้ว
และถ้าเราเชื่อพระองค์และตายไปแล้ว พระองค์ก็จะทำให้เราเป็นขึ้นจากตาย มีกายใหม่เป็นอมตะ ที่ไม่เจ็บป่วยไม่ทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บ และไม่ตายอีกเลย มาแทนที่กายดินที่เปราะบางและเสื่อมสลายอย่างที่เราเป็นอยู่
แล้วจากนั้น เราจะอยู่อย่างเป็นสุขนิรันดร์ ร่วมกับพระคริสต์เจ้า ในสวรรค์อันแสนสุขเกษม

นานมาแล้ว ผมอ่านบทความหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับท่าทีของเราต่อ“โรคมะเร็ง“ และผมชอบมาก จึงขอนำมาฝากพี่น้อง พร้อมคำแปลเป็นบทกลอนปิดท้าย ดังนี้

“Cancer is so limited.
It cannot cripple Love.
It cannot shatter Hope.
It cannot corrode Faith.
It cannot eat away Peace.
It cannot destroy Confidence.
It cannot kill Friendship.
It cannot shut out Memories.
It cannot silence Courage.
It cannot invade the Soul.
It cannot reduce Eternal life.
It cannot quench the Spirit.
It cannot lessen the power of the Resurrection.”

ซึ่งพอจะถอดความหมาย มาเป็นไทย ได้ดังนี้

“มะเร็งร้าย น่ากลัว แต่จำกัด
รักยืนหยัด สู้ได้ ไม่หวั่นไหว
มะเร็งร้าย ทำลาย รักไม่ได้
ด้วยหวังใจ มีชัย เหนือมะเร็ง

มะเร็งร้าย มิอาจ กร่อนศรัทธา
มันซัดพา สันติสุข ไปไม่ได้
ด้วยเชื่อมั่น ดำรง ไม่ไปไหน
ด้วยวางใจ ก้าวข้าม ทุกมะเร็ง

มะเร็งร้าย ยากทำลาย มิตรภาพ
สุขภาพ เสียไป ทรงจำอยู่
ด้วยกล้าหาญ เคียงคู่ พร้อมร่วมสู้
ใจแกร่งอยู่ แม้มะเร็ง ยังคุกคาม

มะเร็งร้าย มุ่งหมาย ทำลายชีพ
แม้มันรีบ โจมตี เฝ้าล้างผลาญ
แต่มิอาจ แตะต้อง จิตวิญญาณ
การรุกราน ใดใด เราไม่กลัว

มะเร็งร้าย มรณา ถูกพิชิต
องค์พระคริสต์ เป็นขึ้น อย่างเฉิดฉาย
องค์ทรงฤทธิ์ ถอนเหล็กไน แห่งความตาย
กลัวมลาย พระวิญญาณ สถิตนำ

มะเร็งร้าย พ่ายแพ้ อีสเตอร์
แม้ฉันเธอ จะหายป่วย หรือชีพวาย
เรามั่นใจ เป็นขึ้นแน่ พ้นจากตาย
ในบั้นปลาย อยู่สวรรค์ สุขนิรันดร์

ทั้งหมดนี้ เป็นได้ เพราะพระคริสต์
มอบชีวิต ตายแทน บนกางเขน
รับโทษบาป แทนเรา ไถ่กรรมเวร
เราจะเป็น จากตาย เช่นพระองค์! ”

พี่น้องที่รัก ครับ
มะเร็งร้ายไม่มีความหมายอะไร สำหรับเราที่เชื่อวางใจในพระคริสต์ ผู้ทรง
1.สิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปเราใน วันศุกร์ประเสริฐ
2.เป็นขึ้นจากตายในวันอาทิตย์(ที่เรียกกันว่า วันอีสเตอร์)
3.จะกลับมารับเราไปอยู่กับพระองค์ ไม่ว่า จะ
1).ในวันนี้ หรือ
2).ในใดวันหนึ่งข้างหน้า

…พี่น้อง เชื่อเช่นนี้ไหมครับ?
~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
31มีนาคม2024 ,วันอีสเตอร์ 2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
ตอนสุดท้ายของ“สดแต่เช้า”ปีที่3 ตอนหน้าจะเป็น “สดแต่เช้า”ปีที่ 4ตอนที่1





Mar 30, 202410:05
Ep.917 เป้าหมายของวันศุกร์ประเสริฐ

Ep.917 เป้าหมายของวันศุกร์ประเสริฐ

พระธรรมนำชีวิต
ตอน เป้าหมายของวันศุกร์ประเสริฐ Ep.917

คำแบ่งปันของผมวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมได้รับจากคำเทศนาของคุณพ่อผม อ.วิชัย วงศ์สรรเสริญ ในการนมัสการพิเศษวันศุกร์ประเสริฐ ที่คริสตจักรเขาหินซ้อนแบ๊บติสต์

”เพราะเหตุนี้ พระคริสต์จึงทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกมาได้รับมรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา เพราะความตายที่เกิดขึ้นนั้นไถ่พวกเขาให้พ้นจากบรรดาการล่วงละเมิดที่เกิดภายใต้พันธสัญญาเดิมแล้ว“
‭‭ฮีบรู‬ ‭9‬:‭15‬ ‭THSV11‬‬

ในพระธรรมฮีบรูได้ทำให้เราเห็นภาพ เห็นรูปแบบของพันธสัญญาเดิมที่พระเจ้าได้ทำกับอับราฮัม และคนอิสราเอล พระธรรมฮีบรูได้ทำให้เราเห็นว่าพระเยซูคือปุโรหิตที่มอบถวายร่างกายของพระองค์เองเป็นแกะที่ไร้ตำหนิเพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาป นี่ถือเป็นพันธสัญญาใหม่ ที่มีพระเยซูเป็นผู้ทำสัญญาและพันธสัญญานี้ที่ไม่มีวันล้มเหลวไปอีก

”พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ผู้ได้ทรงถวายพระองค์เองแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ให้เป็นเครื่องบูชาอันปราศจากตำหนิ ก็จะทรงชำระได้มากยิ่งกว่านั้นสักเพียงใด เพื่อให้จิตใจของคนที่หมกมุ่นในการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย หันไปรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่“
‭‭ฮีบรู‬ ‭9‬:‭14‬ ‭TH1971‬‬

จากคำเทศนาของพ่อผม สิ่งที่ยังจับใจผมอยู่คือพระธรรมข้อนี้ พ่อพูดว่านี่คือเป้าหมายของวันศุกร์ประเสริฐ เป็นเป้าหมายของสิ่งที่พระเยซูทำ “เพื่อให้จิตใจของคนที่หมกมุ่นในการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย หันไปรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พวกเรามีเป้าหมายอะไรในการมีชีวิตอยู่ในพระเยซู เรากำลังหมกมุ่นอยู่กับอะไร นอกจากการมีชีวิตในงานรับใช้พระเจ้าแล้ว ทุกสิ่งคือพฤติกรรมที่นำไปสู่ความตาย หรือในพระคัมภีร์เรียกว่า พฤติกรรมที่หาสาระไม่ได้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมให้เราออกจากงานมารับใช้พระเจ้า แต่ผมอยากให้เราใช้ชีวิตโดยรู้ว่า การงานหรือสิ่งใดก็ตาม ไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หรือสำคัญที่สุด แต่งานนั้นๆมีไว้ให้เราที่จะมีชีวิตอยู่ มีข้าวกิน แต่ชีวิตของเราต้องมีพระเจ้ามาเป็นลำดับแรกสุดในชีวิตเสมอ ก่อนทุกสิ่ง ก่อนคนรัก ก่อนลูก ก่อนชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ และนั่นคือชีวิตการรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ถ้าบางสิ่งในชีวิตมาก่อนพระเจ้า ขอหันกลับมาจับจ้องที่พระเจ้า พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
Mar 30, 202408:11
Ep.364 3วันสำคัญที่คุณต้องเผชิญ!

Ep.364 3วันสำคัญที่คุณต้องเผชิญ!

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่3(364)

3วันสำคัญ ในชีวิตที่คุณต้องเผชิญ!

” เมื่อพวกเขาทำทุกอย่างสำเร็จตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้ว
จึงเอาพระศพลงมาจากต้นไม้และวางไว้ในอุโมงค์
แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
พระองค์ทรงสำแดงพระองค์อยู่หลายวันกับคนจากแคว้นกาลิลี
ที่มากรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับพระองค์
และบัดนี้คนเหล่านั้นคือสักขีพยานของพระองค์ต่อคนทั้งหลาย!“
‭‭ ~กิจการ‬ ‭13‬:‭29‬-‭31‬ ‭THSV11‬‬
”When they had carried out all that was written about him,
they took him down from the cross and laid him in a tomb.
But God raised him from the dead,
and for many days he was seen by those who had traveled with him
from Galilee to Jerusalem. They are now his witnesses to our people.“
‭‭ ~Acts‬ ‭13‬:‭29‬-‭31‬ ‭NIV‬‬

ริค วอเรน(Rick Warren) กล่าวไว้ชัดเจนว่า

“ ความตาย การถูกฝัง และการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์
เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงสามวัน
~วันศุกร์เป็นวันแห่งการทนทุกข์ เจ็บปวดและทุกข์ทรมาน
~วันเสาร์เป็นวันแห่งความสงสัย ความสับสน และความลำเค็ญ
แต่
~วันอีสเตอร์ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เป็นวันแห่งความหวัง ความชื่นชมยินดี และชัยชนะ
คุณจะพบกับสามวันเช่นนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดชั่วชีวิตของคุณ
และเมื่อคุณเผชิญกับช่วงเวลาเช่นนั้น
คุณจะพบว่าตัวคุณเองกำลังถามคำถามเหมือนอย่างที่ผมได้ถามไปแล้ว
นั่นคือสามคำถามพื้นฐานที่ว่า
1.“ฉันทำอะไรบ้าง ในวันที่ฉันเจ็บปวด?”
2.“ฉันจะฟันฝ่าวันเวลาแห่งความสงสัยและความสับสนออกมาได้อย่างไร?”
3.“ฉันต้องทำอย่างไรจึงจะได้พบกับวันแห่งความชื่นชมยินดี และชัยชนะ?”
…คำตอบก็คือ วันอีสเตอร์!“

ใช่ครับ พี่น้องที่รัก
ในชีวิตจริงของเรา
1.เราจะเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียในวันศุกร์
2.เราจะเผชิญกับความสับสนว่างเปล่าในวันเสาร์
3.เราจะชื่นชมยินดีเป็นพิเศษกับการสรรเสริญพระเจ้าในวันอาทิตย์อีสเตอร์!”

และไม่ว่าเราจะชอบวันศุกร์หรือไม่
แต่ถ้าไม่มีวันศุกร์ เราก็จะไม่มีอาทิตย์เช่นกัน!

เหมือนดังที่ Fulton J. Sheen กล่าวไว้ว่า

“ นอกจากว่าต้องมีวันศุกร์ประเสริฐในชีวิตของคุณ
มิฉะนั้นก็จะไม่มีวันอาทิตย์อีสเตอร์แก่คุณเช่นกัน!”
(Unless there is Good Friday in your life,
there can be no Easter Sunday.)

จริงครับ ก่อนหวาน เราอาจต้องเจอขมก่อน
และบางครั้งเราอาจประสบกับสภาวะเหี่ยวแห้งอับเฉา ก่อนที่จะพบกับความเจริญงอกงาม
เหมือนดังที่ Albert Lighton กล่าวว่า

“ในที่ที่มนุษย์เราเห็นแต่ใบไม้เหี่ยวเฉา
พระเจ้าทรงเห็นดอกไม้สวยงามกำลังเติบโต!”
(Where man sees but withered leaves,
God sees sweet flowers growing.)

ดังนั้น ตราบใดที่พระเจ้า ผู้ทรงทำให้ พระพระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายสถิตอยู่กับเรา ตราบนั้นเราก็จะมองเห็นความเจริญงอกงามในท่ามกลางความเหี่ยวเฉาและดูสิ้นหวังได้เสมอเหมือนดังที่ Robert Flatt กล่าวว่า

“การเป็นขึ้นมาจากตาย
ใต้ทำให้ชีวิตของข้าพเจ้ามีความหมาย มีทิศทางและมีโอกาส
ที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าสถานการณ์แวดล้อมของข้าพเจ้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม!”
(The resurrection gives my life meaning and direction and the opportunity
to start over no matter what my circumstances.)

พี่น้องที่รัก
หากว่า
1.คุณกำลังอยู่ในสภาวะของความผิดหวัง เจ็บปวด พ่ายแพ้ และสูญเสียเหมือนกำลังอยู่ในวันศุกร์
หรือ
2.คุณอาจกำลังแน่นิ่งสิ้นสภาพทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนถูกฝังไว้ในวันเสาร์
อย่างก็ตาม ขอให้
3.คุณจงมองดูที่พระคริสต์ และมองดูทุกสิ่งด้วยสายตาของพระองค์
แล้วคุณจะมั่นใจในชัยชนะ และเฉลิมฉลองกับพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดี!
เหมือนคุณได้เป็นขึ้นมาจากความตายร่วมกับพระองค์ในวันอาทิตย์

ดังนั้น วันนี้
ขอให้คุณจงออกไปจากอุโมงค์ของคุณ เพื่อไปเป็นพยานถึงสิ่งที่พระคริสต์ผู้ทรงเป็นขึ้นมา
จากความตายได้กระทำอะไรบ้างในชีวิตของคุณ เพื่อให้คนทั้งโลกได้รับรู้
โดยขอให้คุณเริ่มต้นบอกคนใกล้ตัวของคุณก่อนว่า

“อีสเตอร์”นี้
1.มีความหมาย และ
2.มีความสำคัญต่อตัว
1).ของคุณ และ
2).ของพวกเขาอย่างไรบ้าง
…จะดีไหม?

~~~~~~~~~~~~~
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
30มีนาคม2024
#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี
Mar 29, 202410:29