Howay The Lads

เปิดบ้านเอาชนะวูล์ฟ 3-0 เก็บคลีนชีทได้ซะที หลังจากเสียประตูรัวๆ ในหลายๆ นัดที่ผ่านมา

ช่วงนี้ทีมเราจะหลังรั่วๆ หน่อย ด้วยสโลแกนยิงมายิงกลับไม่โกง ย้อนอดีตเดอะเอ็นเตอร์เทรนเนอร์แห่งแดนอีสาน

ชัยชนะนัดที่ 5 ติดต่อกัน เหนือผู้มาเยือนจากลอนดอน กับการยิงสองนัดติดต่อกันของโจ วิลล็อคลอนดอนเนอร์ที่ฟอร์มกำลังกลับมา

ถึงแม้ฟอร์มการเล่นจะไม่ดีที่สุด แต่การบุกไปชนะเซาแธมป์ตันถึงเซนท์แมรี่ ก็ทำให้คิดถึงฟอร์มแชมป์ขึ้นมาแล้วตอนนี้

แม้ครึ่งแรกจะโดนทีมยืนปั่นป่วนจนทำสกอร์ขึ้นนำไม่ได้ แต่ลูกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำให้ครึ่งหลังเล่นง่ายมากขึ้น 

เกมเยือนที่บุกไปถล่มเจ้าบ้านขาดลอย 4-1 หลังจากที่ฟูแลมโดนใบแดงตั้งแต่ช่วงต้นเกม

เกมในบ้านที่พับสนามบุกแหลก โดนทีมเยืนสวนทีเดียวหาย โชคดีที่ได้จุดโทษจาก VAR

เล่นในบ้านทำเกมบุกใส่ผู้มาเยือน แต่ไม่คมพอเลยแต้มหาย แถมด้วยดราม่า VAR 

วินาทีบาปช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำให้เราอดได้แต้มจากแอนฟิลด์ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทีมก็ได้ทำดีที่สุดอย่างสุดความสามารถแล้ว 

บททดสอบทีมเพิ่งเริ่มต้นขึ้นกับทีมที่มีระบบที่ดี การเดินทางไปเยือนทีมที่อยู่เกือบใต้สุดของเกาะอังกฤษ ไม่ง่ายเลย หนึ่งแต้มที่แบ่งมาได้นี้ล้ำค่ามากทีเดียว

ห่างหายกันไปหลายเดือน EPL ซีซั่นใหม่กลับมาแล้ว เกมแรกก็ประเดิมด้วยชัยชนะกับรูปแบบการเล่นที่แฟนๆ รอคอยมานาน

เดินทางมาถึงนัดสุดท้ายแล้ว ใครจะไปเชื่อว่าครึ่งซีซั่นแรกจมอยู่โซนตกชั้น แต่สามารถจบที่อันดับ 11 กับ 49 แต้ม

เจอกับทีมลุ้นแชมป์ที่ฟอร์มดีที่สุดในปีนี้ ไม่ใช่เกมที่ง่าย ผลแพ้แค่ลูกเดียวก็ทำดีที่สุดแล้วล่ะ

ชัยชนะติดต่อกัน 4 นัด และเป็นเกมนอกบ้านที่ยิงได้เยอะแบบไร้ความกดดัน

บรูโนโชว์เทพยิงสองลูกพาทีมชนะแบบงงๆ 

กลับมาอีกครั้ง หลังจากเราหายกันไปนาน กับชัยชนะนัดแรกหลังพักเบรคทีมชาติในเดือนมีนาที่ผ่านมา

ชัยชนะในเกมนี้ หลังจบเกมหลายคนคงรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก ลูกที่ได้ประตูก็ถือเป็นโชค ปลดล็อกได้สำเร็จแล้วก็หวังว่าทุกอย่างจะดีกขึ้นเรื่อยๆ 

นัดแรกของบอสคนใหม่ แต่ดันติดโควิดเลยไม่ได้มาคุมข้างสนาม ถึงแม้จะพลาดได้ 3 คะแนนในบ้าน แต่ก็แสดงการพลิกเปลี่ยนทีมที่รุกไม่เป็น จนคัมแบ็กกลับมาได้

เกมเสมอแบบน่าได้ 3  แต้มกับรูปเกมที่ยังน่าเป็นห่วง

หลังจากหายไปนาน พอเทคโอเวอร์สำเร็จ สตีฟ บรูซจากทีมไปแล้ว เลยได้เวลาที่เราจะกลับมาคุยกันอีกครั้งถึงเรื่องราวมากมายในช่วงที่เราได้เว้นวรรคไป

จบซีซั่น 2020/2021 ได้อย่างอัศจรรย์กับอันดับที่ 12 และ 45 แต้ม ดีกว่าซีซั่นที่แล้วอีก แถมโจ วิลล็อคทำสถิติยิงได้ต่อเนื่อง 7 นัด เทียบเท่าสถิติของอลัน เชียร์เรอร์เลยทีเดียว

แม้จะขาดกองหน้าตัวทำประตูอย่างคัลลัม วิลสัน แต่แผนการเคาน์เตอร์แบบรวดเร็วของพ่อบรูซก็ทำเอาแมนซิตี้ต้องเหงื่อตก 7 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ประหนึ่งพรีซีซั่นกลายๆ เพราะไม่มีอะไรให้ลุ้นกันทั้งสองทีมแล้ว

เมื่อทีมเกมรุกอยู่กันพร้อมตอนนี้ไม่กลัวทีมไหนแล้ว ขออย่างเดียวอย่าให้โจลิงตันลงมาเปลี่ยนเกมเป็นพอ

ชนะ 2 แพ้ 1 ยิงไป 6 ประตู ถือว่าเป็นผลงานเปิดตัวโค้มเกมรุกคนใหม่ได้อย่างสุดยอด ส่วนนัดนี้ก็เปิดตัวกองกลาง box to box คนใหม่อย่าง โจ วิลล็อคอย่างเซอร์ไพรส์กับการยิงได้ตั้งแต่ลงเล่นในนัดแรกเลยด้วย

ใครจะไปคิดว่าแค่เปลี่ยนโค้ชจะมีผลทำให้ฟอร์มดีขึ้นทันตาอย่างกับคนละทีม ผลชนะ  2-0 ในเกมนี้อาจจะเป็นแค่ดวงของสตีฟ บรูซก็ได้ ต้องติดตามดูกันอีกหลายนัดว่าฟอร์มที่ดีขึ้นเป็นฝีมือของใครกันแน่

ช่วงหลังสตีฟ บรูซพาทีมแพ้ 6 นัดติด ไร้ทรงบอล ความหวังรางเลือน เข้าสู่สถานะเตรียมหนีตกชั้นอย่างเป็นทางการ ถ้าบอลยังเตะตี 3 เหมือนเดิม หลายคนคงเลือกที่จะนอนดีกว่าตื่นมาเสียเวลาดูบอลที่ไร้ใจของสตีฟ บรูซ

เป็นนัดแรกของแชมป์เก่าในฤดูกาลนี้ที่ไม่สามารถยิงประตูได้ และเป็น 1 แต้มที่สำคัญของนิวคาสเซิลเลยทีเดียว

เกมกับคาราบาวคัพที่พ่อบรูซส่งทีมมาแบบเน้นๆ ทำอะไรไม่ได้ลุ้นไม่ขึ้นกันไป แต่กับเกมกับแมนซิตี้ที่มาลุ้นให้แพ้น้อยยิ่งไม่มีอะไรให้ลุ้น

3 เกมติดๆ กัน กับการต้อนรับน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมา กับผลงาน 4 คะแนน

เกมดึกที่หลายคนต้องอดนอนรอดูถึงตี 3 อีกแล้ว ถึงแม้ลูกนำชัยชนะจะมาตอนเกือบจบเกม แต่ระหว่างทางก็ไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไป

ถึงแม้จะเสียถึงสองประตู แต่ไม่ใช่จะไม่มีโอกาสตีเสมอ แต่ทำหมูหก ยิงไม่คม ทำให้คิดเลยว่าหากฤดูกาลนี้วิลสันเจ็บยาว จะเอามายิงประตูให้กับโอกาสที่แสนน้อยนิด

เกมที่คาดหวังว่าจะเล่นได้ดี กับเล่นได้แย่ ผลงานสุดแสนระทมในบ้านที่สตีฟ บรูซ ไม่ได้แสดงถึงความสามารถในการแก้เกมอีกแล้ว

การกลับมาของแม็กซิแมงทำให้ทีมทำผลงานได้ดีขึ้น ถ้าแมงซิแมงฟิตเรามั่นใจได้เสมอว่าจะป่วนคู่แข่งได้อย่างแน่นอน และนัดนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กับผลงานยิงหนึ่งแอสซิส 1 ของแมงซิแมงเดอะแบก

จบเกมไปแบบงงๆ ได้ 1 แต้มออกจากรังของท็อตแนม ฮอต สเปอร์สน่าตาเฉยๆ เล่นแย่แต่ได้แต้มกลายเป็นซิกเนเจอร์ของ สตีฟ บุญไปแล้ว

ชนะเกมเปิดฤดูกาลครั้งแรกในรอบหลายปี สตีฟ บรูซกับลูกทีมที่ตัวเขาเลือกเสริมทีมเข้ามาต่างก็ทำให้แฟนๆ ไม่ผิดหวังกับผลงานบุกไปชนะขุนฆ้อนได้ถึง 2 ลูก

นัดสุดท้ายของฤดูกาลกับฟอร์มหลุดลุ่ยของทีมพ่อบรูซ ไม่ต้องลุ้นอะไร จบไปแบบอึนๆ กองเชียร์เซ็งไปตามๆ กัน

เกมที่ไม่มีอะไรที่น่าพูดถึง แข่งก็ดึกทรมาณกองเชียร์น่าดูทีเดียว

เกมที่ทั้งสองทีมไม่ได้มีผลอะไรกับตารางคะแนนก็จะเฉื่อยๆ นิวคาสเซิ่ลมีโอกาสเยอะ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ จบเกมเลยแพ้ทีมเยือนที่คมกว่าไปพร้อมกับนักเตะที่บาดเจ็บอีกพอสมควร

จบเกมแบบไม่น่าแพ้ จะโทษใครไม่ได้ มีแต่สตีฟ บรูซเท่านั้นที่คู่ควรกับคำว่าแพะ

แพ้เป็นเรื่องปกติยอมรับกันได้ แต่แพ้แบบไม่สู้มันทนดูไม่ได้

หลังจากแพ้แมนซิตี้ในเกมเอฟเอคัพแบบหมดรูป ใครจะไปคิดว่านิวคาสเซิ่ลจะระเบิดฟอร์มยิงได้เยอะสุดในฤดูกาลนี้ เอาชนะบอร์นมัธไปได้อย่างชิลๆ

จบเกมแพ้แมนซิตี้ไปอย่างไม่เกินความคาดหมาย รูปเกมไม่มีอะไรน่าจดจำ น่าเสียดายที่สตีฟ บรูซน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แพ้แบบสู้เต็มที่จะไม่น่าเสียใจเท่าอุดรอแพ้แบบที่เกิดขึ้นในเกมนี้

จบไปแบบเสมอ ทั้งๆ ที่ขึ้นนำไปก่อนกับเกมที่ 2 หลังจากกลับมาจากพักเบรคโควิด เตะกันถี่นักเตะอาจจะไม่ฟิต

หายไป 3 เดือนหลังจากต้องพักเบรคจากวิกฤตโควิด 19 แม้ว่าจะเป็นเกมแรกแต่นิวคาสเซิ่ลก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ถล่มเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดไปถึง 3 ลูก